กระทรวงการคลังจัดสัมมนาผู้ประกอบธรุกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ “สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์” เพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่าง บูรณาการและยั่งยืน
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 ที่ห้องภูเก็ตแกรนด์บอลรูม 2 โรงแรมภูเก็ต รอยัล ซิตี้ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นางสาวบัณฑรโฉม แก้วสอาด ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดสัมมนาประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ “สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์” โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วม

นางสาวบัณฑรโฉม แก้วสอาด กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้กำหนดให้มี”สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์” เพื่อเป็นสินเชื่อรายย่อยประเภทใหม่ในระบบการเงินไทย สำหรับ “สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์” ได้ดำเนินการยื่นคำขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์กับกระทรวงการคลังตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 โดยกระทรวงการคลังเห็นความสำคัญที่ต้องเผยแพร่ข้อมูลให้เป็นทีรู้จักในวงกว้างเพื่อให้สาธารณชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องชัดเจน จึงกำหนดจัดการสัมมนาในครั้งนี้ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ทำความรู้จักสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ในเชิงลึกรวมทั้งได้มีข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ สำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจในการเข้าร่วมธุรกิจ ต่าง ๆ กับสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์

นางสาวบัณฑรโฉม กล่าวต่อไปว่า สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ถือเป็นหนึ่งในมาตรการ สำคัญของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่าง บูรณาการและยั่งยืนโดยที่ผ่านมา ปลัดกระทรวงการคลังได้ลงพื้นที่ เพื่อประชุมซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในหลายพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องซึ่งได้ลงพื้นที่ไปแล้ว 5ครั้ง ได้แก่ ที่จังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุดรธานี พิษณุโลก อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว สระบุรี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีษะเกษ ยโสธร หนองคาย บึงกาฬ และหนองบัวลำภู

ทั้งนี้ สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ได้ถูกออกแบบให้เป็นส่วนเติมเต็มนาโนไฟแนนซ์เพื่อการประกอบอาชีพ โดยให้สอดคล้องกับความจำเป็นฉุกเฉินของประชาชนผู้มีรายได้น้อยมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงมีกลุ่มลูกค้าจำนวนมากที่รอคอยสินเชื่อประเภทนี้ ที่สำคัญคือผู้ให้กู้อาจเรียกหลักประกันเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการปล่อยกู้และสามารถจะคิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปีในขณะที่กฎหมายแพ่งทั่วไปอนุญาตให้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ได้เพียงร้อยละ 15 ต่อปีเท่านั้น