การร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต

จังหวัดภูเก็ต ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต (กรอ. จังหวัดภูเก็ต) ครั้งที่ 6/2564

            วันที่ 30 มีนาคม 2564  ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต หรือ กรอ.จังหวัดภูเก็ต โดยมี ส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน

            โดยที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าแนวทางการดำเนินโครงการก่อสร้าง ทางพิเศษสายกะทู้ป่าตอง มีรายละเอียดดังนี้

            -กำหนดขออนุมัติหลักการ PPP กรกฎาคม 2564

            -คัดเลือกเอกชน สิงหาคม 2564 ถึงมีนาคม 2566

            ออก พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.)และจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน สิงหาคม 2564 -มกราคม 2567

            – ก่อสร้างในเดือนเมษายน 2566

            – เปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2570

            ในส่วนของการดำเนินโครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ มีความคืบหน้าดังนี้

            -ขออนุมัติหลักการ PPP พฤศจิกายน 2565 -พฤศจิกายน 2566

            -จัดทำ TOR จัดจ้างคัดเลือกเอกชน ระหว่าง กรกฎาคมถึงพฤศจิกายน 2566

            -คัดเลือกเอกชน /ลงนามสัญญาร่วมทุน ธันวาคม 2566 ถึงกุมภาพันธ์ 2568

            -ตรา พ.ร.ฎ.เวนคืนฯสำรวจ /จัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ธันวาคม 2566 ถึงสิงหาคม 2569

            -ก่อสร้าง ตุลาคม 2568

            -เปิดให้บริการตุลาคม 2571

            นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต รายงานความคืบหน้าโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก โดยใน Phase 1 กำหนดดำเนินการก่อสร้างดังนี้

            1.ศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขนานาชาติ

            2.ศูนย์อภิบาลสุขภาพผู้สูงอายุนานาชาติ

            3.ศูนย์ใจรัก

            4.ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจรศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย รวม งบประมาณ 1,418,697566 บาท ในพื้นที่ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตในพื้น ที่ 141 ไร่

            ทั้งนี้โครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก จะก่อให้เกิดคุณค่าดังนี้

            1.เป็นศูนย์กลางการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขมูลค่าสูงที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวและการบริการอื่นๆ ระดับนานาชาติ (International Medical Hub World Class Destination)

            2.นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปมีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยคุณภาพและมาตรฐานด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของจังหวัดภูเก็ตที่รองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพตามวิถีปกติใหม่ (New Normal)

            3.สร้างโอกาสในการลงทุนให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่และประเทศ

            4.การจ้างงานเพิ่มขึ้นและคนเดิมได้รับการจ้างต่อภาคการท่องเที่ยวและบริการอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

            5.จำนวน นักท่องเที่ยวและมูลค่าทางเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตและประเทศเพิ่มขึ้น

            6.กระตุ้นธุรกิจประกอบการท้องถิ่น ส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ช่วยสร้างานให้คนในชุมชนเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนและเมืองอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

            7.เป็นต้นเบบของภูมิภาคอื่นในการจัดตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์ & สุขภาพนานาชาติ Interational & Hesalty Wellness Tourism) เพิ่มคุณค่าและการปฏิรูปการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประเทศไทยให้เป็นชั้นนำระดับโลก (World Class)

            8.ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ปรับตัวเพิ่มขึ้น

            ทั้งนี้การผลักดันโครงการต่าง ๆ เหล่านี้มุ่งเป้าหมายเพื่อการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตอย่างยั่งยืนต่อไป

Comments are closed.