
คณะกรรมการศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้าจังหวัดภูเก็ต ร่วมขับเคลื่อน ต่อยอดเสริมทักษะและสร้างความ สำนึกความเป็นพลเมือง ต่อการกำหนดนโยบายสาธารณะสู่เยาวชนและผู้นำชุมชน

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ห้องประชุมโต๊ะแซะสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์ สงวนกิตติพันธุ์ ประธานคณะกรรมการศูนย์พัฒนาการเมืองจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมเพื่อหารือในการขับเคลื่อน การเมืองภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้าจังหวัดภูเก็ต โดยมีคณะกรรมการ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง



นายสุพจน์ สงวนกิตติพันธุ์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้
เป็นการประชุมครั้งแรกของปีงบประมาณ 2563 เพื่อร่วมกันพิจารณาทิศทางการดำเนินงานและการเสริมสร้างศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้าของจังหวัดภูเก็ต
โดยจะดำเนินการขับเคลื่อนโครงการต่อยอดเสริมทักษะสร้างสำนึกความเป็นพลเมืองต่อการกำหนดนโยบายสาธารณะสู่เยาวชน
เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องสร้างจิตสำนึกสาธารณะแก่การเป็นพลเมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตย
สร้างการมีส่วนร่วมส่งเสริมและพัฒนาสู่นโยบายสาธารณะตลอดจนเพิ่มความรู้และทักษะเกี่ยวกับนโยบายสาธารณะให้แก่เยาวชนในสถานศึกษา
และผู้นำชุมชน
เพื่อพัฒนากระบวนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะสู่สถานศึกษาในรูปของภาคีเครือข่าย
โดยในปี 2563 นี้
มีกลุ่มเป้าหายเป็นเยาวชนในสถานศึกษา นำร่องครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ ต่อยอดจากปี 2562 พร้อมทั้งแกนนำชุมชน ชุมชนละ
5 คน จำนวน 17 ตำบล รวมทั้งสิ้น 85
คน จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลักดันสูงนโยบายสาธารณะ
ตามกระบวนการและขั้นตอนที่กำหนด
เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ทำความเข้าใจกับหลักเกณฑ์วิธีการสร้างสำนึกความเป็นพลเมือง
โดยการมอบหมายให้นักเรียนแต่ละโรงเรียนดำเนินการสร้างนโยบายสาธารณะในโรงเรียนตามกระบวนการ
6 ขั้นตอน คือการระบุปัญหา
การคัดเลือกปัญหาที่สำคัญและมีผลกระทบต่อคนส่วนใหญ่ การค้นคว้ารวบรวมข้อมูล ข้อดี
ข้อเสียของปัญหาที่คัดเลือกอย่างละเอียด จัดทำแฟ้มผลงาน นำเสนอต่อผู้บริหาร
ให้รับฟังความคิดเห็นของชุมชนหรือโรงเรียน ขั้นตอนสุดท้ายจะมีการทบทวนประสบการณ์ที่ได้รับจากการเรียนรู้ถอดบทเรียนจุดอ่อนจุดแข็งสู่ความสำเร็จ
และนำเสนอในเวทีสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาหลักสูตรนโยบายสาธารณะพร้อมทั้งจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมหรือ
mou เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะในโรงเรียนตามข้อเสนอของคณะนักเรียนต่อผู้บริหารสถานศึกษาต่อไป
การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คาดว่าจะทำให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเยาวชนสามารถนำความรู้การปกครองระบอบประชาธิปไตยไปใช้ในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น มีส่วนร่วมในการปกครองระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งศูนย์การเมืองภาคพลเมืองสถาบันพระปกเกล้าจังหวัดภูเก็ตจะเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
