ขีดเส้นตาย 2 เดือนอาคารประเภทอื่นมาดัดแปลงเป็นโรงแรม

พฤศจิกายน 29, 2016 ข่าวทั่วไป 777

ผู้ว่าภูเก็ตประกาศขีดเส้นตาย 2 เดือน ให้สถานประกอบการกว่า 1,366 แห่งที่ดัดแปลงอาคารประเภทอื่นมาดัดแปลงสภาพเป็นโรงแรมให้มารายงานตัวจดทะเบียนกิจการให้ถูกต้องตามกฎหมายการประกอบธุรกิจโรงแรม หากเลยเวลาพบยังมีผู้ฝ่าฝืนลงพื้นที่จับกุมปิดกิจการทันที.

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการแถลง จัดระเบียบ โรงแรมเพื่อแก้ปัญหาการนำสถานที่พักประเภทอื่นมาใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต,นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต,นายอำเภอเมือง,นายอำเภอกะทู้และนายอำเภอถลาง, หน่วยงานเกี่ยวข้องและสื่อมวลชน เข้าร่วม

นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการให้บริการห้องพักในจังหวัดภูเก็ต ปัจจุบันพบว่ามีการนำห้องพักมาให้บริการรายวันเป็นจำนวนมาก ผลการตรวจสอบข้อมูลพบมีสถานประกอบการโรงแรม ในจังหวัดภูเก็ตได้การดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 424 แห่ง รวม 45,740 ห้อง อยู่ในอำเภอเมือง 204 แห่ง รวม 19,395 ห้อง อำเภอกะทู้ 148 แห่งรวม18,839 ห้อง และอำเภอถลาง 72 แห่ง รวม 7,506ห้อง และเนื่องจากปัจจุบัน ได้มีสถานที่พักประเภทอื่น เช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ แมนชั่น มาเปิดขายบริการห้องพักเป็นรายวัน ทั้งหมด1,366 แห่ง ซึ่งสถานประกอบการดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับโรงแรมที่มีใบอนุญาตถูกต้องเป็นอย่างมาก และรัฐไม่สามารถควบคุมความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวได้ จังหวัดภูเก็ตจึงมีนโยบายเร่งรัดจัดระเบียบโรงแรมที่มีอยู่ในจังหวัดภูเก็ตให้มีเพียงโรงแรมที่ถูกต้องตาม พระราบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547

สำหรับสถานที่พักที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรมเนื่องจาก มีปัญหาเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายบางประการ จังหวัดพร้อมที่จะพิจารณาช่วยเหลือเพื่อเข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง ตามกฎหมายเป็นรายๆ ไป ทางจังหวัดจึงขอให้ สถานประกอบการทั้ง 1,366 แห่งมาขึ้นทะเบียนเป็นโรงแรมให้มีความถูกต้อง นับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2559 – วันที่ 31 มกราคม 2560 เท่านั้นแต่หากเจ้าหน้าที่ของรัฐขึ้นทะเบียนให้ไม่ทันก็จะขยายเวลาเป็นคราวๆไป โดยขยับทีละเดือน แต่ทั้งนี้ก็ให้อยู่ในกรอบเวลาที่ไม่เกิน 6 เดือน และทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องเสร็จสิ้นทุกประการไม่เกิน 2 ปี เพื่อกำจัดปัญหาการหลบหลีกแฝงเร้นนำอาคารประเภทอื่นไปใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นมายื่นความจำนงค์ได้ที่อำเภอที่กิจการตนสังกัดอยู่ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อที่จะปรับปรุงสภาพให้เป็นโรงแรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย หากสถานประกอบการ สถานที่พักประเภทอื่น ไม่มาดำเนินการขึ้นทะเบียนตามประกาศของจังหวัดภูเก็ต ภายในระยะเวลาที่กำหนด ทางจังหวัดจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไปขั้นเด็ดขาดทันที

ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ต่อไปนี้ถ้าผู้ใดขออนุญาตจัดสร้างโรงแรมใหม่ต้องได้รับอนุญาตในการดำเนินการก่อนไปดำเนินการก่อสร้างห้ามมิให้ไปดำเนินการก่อสร้างก่อนจะได้รับการอนุญาต นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป การดำเนินการจัดระเบียบโรงแรมนี้จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดห้ามไม่ให้ละเมิด ตนจะดำเนินขั้นเด็ดขาดในการแก้ปัญหาความไม่ถูกต้องเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปจากจังหวัดภูเก็ตให้ได้ และจะส่งผลให้ลดปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้อีกด้วย

นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัด ภูเก็ต กล่าวว่า การจัดระเบียบโรงแรมจะทำให้เกิดประโยชน์ในด้านการดูแลความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการห้องพักของโรงแรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า การจัดระเบียบโรงแรมของจังหวัดภูเก็ตจะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถจัดเก็บภาษีเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นได้มากขึ้น