คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร รับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชน ผู้ประกอบการเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและเยียวยา

คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร รับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชน ผู้ประกอบการเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้ผลกระทบจากวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ด้านผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอขอซอฟโลน (Soft Loan) พร้อมขอให้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวให้กลับมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563  ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนัทธี ถิ่นสาคู รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ 2 พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมาร่วมประชุมหาแนวทางช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ต นำโดย นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ,นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมประชุมหารือถึงแนวทางช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ดังกล่าว

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดภูเก็ตได้มีมาตรการตรวจคัดกรองเฝ้าระวังป้องกันในพื้นที่เสี่ยง ตั้งแต่วันที่วันที่ 5 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน และดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการระบาดขึ้นในพื้นที่ โดยได้มีการขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน แต่ยังมีคนที่ไม่หวังดีต่อจังหวัดและประเทศชาติในการสร้างข่าวปลอมเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล ถือเป็นการกระทำที่สร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตและประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งทางจังหวัดได้ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมาย และมีความเข้มงวดในการตรวจสอบข่าวปลอม ประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่น และความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมเฝ้าระวังตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่องทั้งที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ท่าเทียบเรือเมื่อมีเรือสำราญเข้าเทียบท่า สถานีขนส่ง บขส. ที่มีการพ่นฆ่าเชื้อโรคด้วนเครื่องมือ ที่เรียกว่า Airo Fog เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว

นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ภาคการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยภาพรวมผู้ประกอบการมีความต้องการซอฟโลน (Soft Loan) สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่คาดว่าจะมีกว่าร้อยละ 30 ที่อาจจะต้องปิดตัวจากสถานการณ์ดังกล่าว และขอให้มีการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อเครื่องเทอร์โมสแกนให้ครบทุกจุดในพื้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต รวมทั้งประจำการตรวจคัดกรองเรือสำราญขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยลดภาระเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการปฏิบัติงานตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวในระยะนี้ สำหรับในเรื่องซอฟโลน นั้นทางด้านผู้ประกอบการเข้าใจดีว่าไม่ได้อยู่ในการอนุมัติของจังหวัดภูเก็ต แต่ขึ้นอยู่มติของ ครม.ซึ่งจะต้องฝากเรื่องนี้ให้กับทางคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เข้ามาช่วยเหลือ พร้อมเสนอ ครม.เร่งนำงบฉุกเฉินมาดำเนินการตามข้อเสนอ เพื่อเยียวยา ให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชน ภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาโดยเร็ว

นายนัทธี ถิ่นสาคู รองประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวสภาผู้แทนราษฎรได้กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจทุกภาคส่วน ชื่นชมการทำงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสมาคมโรงแรมภาคใต้ ชมรมมัคคุเทศก์ ซึ่งทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ผู้ประกอบการ ได้ปรับตัวตามสถานการณ์ เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนในฐานะรองประธานกรรมาธิการการท่องเที่ยวสภาผู้แทนราษฎรจะได้นำข้อสรุป ข้อเสนอ จากที่ประชุมในวันนี้ ไปนำเสนอกับผู้ที่เกี่ยวข้องอาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคมิกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ ภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบ ในภาวะวิกฤติครั้งนี้ และขอชื่นชมการทำข้อมูลของจังหวัดที่เตรียมการอย่างดี จะนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายในประเทศต่อไป

ในส่วนของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นข่าวปลอมหรือ Fake News ขอย้ำว่า ไม่ควรมีการส่งต่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ที่จะทำให้สังคมเกิดความวิตกกังวลและสร้างความสับสนขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันสื่อสารส่งข้อมูลที่ถูกต้อง ให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อไม่ตื่นตระหนกและช่วยกันแก้ไขไปสู่ในทิศทางที่ดีขึ้นต่อไป

ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมผู้ประกอบการภาคเอกชนได้มอบเครื่องเทอร์โมสแกนมูลค่า 270,000. บาทให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพื่อส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้ใช้ประโยชน์ในการตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

Comments are closed.