คณะสงฆ์หนใต้ จัดการประชุมพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัดและพระเลขานุการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ภาค 16-17-18 และคณะสงฆ์ประเทศมาเลเซียครั้งที่ 1/2561 ตามมติมหาเถรสมาคมมติที่ 414/2539 และมติที่ 143/2546.
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2561 ที่วัดสิริสีลสุภาราม อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ได้มีการประชุมพระสังฆาธิการ ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัดและพระเลขานุการ ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ภาค 16-17-18 และคณะสงฆ์ประเทศมาเลเซีย ครั้งที่ 1/2561 ตามมติมหาเถรสมาคม มติที่ 414/2539 และมติที่ 143/2546 โดยมี นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับคณะสงฆ์, มี พระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ พระธรรมวิมลโมลี เจ้าคณะภาค 16, พระเทพกิตติเวที เจ้าคณะภาค 17, พระเทพสิทธิมุนี เจ้าคณะภาค 18, รองเจ้าคณะภาค, เจ้าคณะจังหวัด, รองเจ้าคณะจังหวัด, เลขานุการเจ้าคณะของคณะสงฆ์ 14 จังหวัดภาคใต้ และพระสังฆาธิการจากประเทศมาเลเซีย เข้าร่วมการประชุมกว่า 60 รูป
นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดให้ภูเก็ตเป็นเมืองอัจฉริยะหรือ Smart City รองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในส่วนของการพัฒนาจิตใจ จังหวัดได้ทำควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านวัตถุ เช่น โครงการผู้ว่าเยี่ยมศาสนสถาน โครงการทำบุญเยี่ยมวัดประชารัฐร่วมใจ เป็นต้น ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้คนเข้าวัดพัฒนาจิตใจ ปฏิบัติธรรม ศึกษาหลักธรรมคำสอน เพื่อใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างสังคมสันติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมเพื่อนำมติมหาเถรสมาคมและมติคณะสงฆ์หนใต้นำไปปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน โดยมีเรื่องเสนอเพื่อพิจารณา ประกอบด้วย เรื่องปฏิรูปกิจการงานพระพุทธศาสนาตามภารกิจ 6 ด้านงานคณะสงฆ์ เนื่องด้วยคณะสงฆ์ได้มีนโยบายในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาตามภาระงาน 6 ด้าน เพื่อสนองนโยบายของรัฐในการปฏิรูปประเทศทุกภาคส่วน เพื่อให้งานเกิดผลปฏิบัติชัดเจนและเกิดประสิทธิผลในการบริหารงานคณะสงฆ์ตามภาระงานทั้ง 6 ด้านดังกล่าว ตามวิธีการที่มหาเถรสมาคมได้แต่งตั้งคณะกรรมการประสานแผนงานการปฏิรูป ได้พยายามขับเคลื่อนตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทุกจังหวัดได้รับทราบการปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมให้เหมือนหรือคล้ายกันทุกจังหวัดทั่วประเทศ ขับเคลื่อนไปในแนวทางเดียวกัน, นอกจากนี้ยังมีเรื่องการขับเคลื่อนคำสั่งเจ้าคณะใหญ่หนใต้ ที่ จญต.03/2560 สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลและมหาเถรสมาคม ได้มีนโยบายร่วมกันในการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนาตามภาระงาน 6 ด้าน โดยเฉพาะงานด้านการปกครอง ซึ่งการปฏิรูปงานนั้น จำเป็นที่เจ้าคณะพระสังฆาธิการผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับชั้นตั้งแต่พระอุปัชฌาย์ พระสังฆาธิการระดับวัดขึ้นไป ต้องติดตามผลและขับเคลื่อนให้มีผลชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น คือการให้เจ้าคณะสังฆาธิการทุกระดับชั้นปฏิบัติตามคำสั่งและอบรมสั่งสอนภิกษุ สามเณร ในปกครองให้มากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ และสุดท้าย เรื่องการขับเคลื่อนนโยบายสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางศาสนาหมู่บ้านรักษาศีล 5 ระยะที่ 3 โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นโครงการที่คณะสงฆ์และรัฐให้ความสำคัญและหวังผลให้เกิดผลในทางปฏิบัติที่มีคุณภาพคือความสุข ความสงบ เป้าหมายหลักคือต้องการให้ประชาชนเข้าใจและนำหลักธรรมไปปฏิบัติให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีผลให้ประชาชนในชาติอยู่กันอย่างสงบสุขและเอื้อเฟื้อต่อกัน






Pingback: bahis siteleri