คณะ วปอรุ่นที่ 62 เข้าศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

วันที่ 24 กรกฎาคม 2563  ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นาย สุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ให้การต้อนรับพลโท พิสัณห์ ปฐมเอม ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรที่นำคณาจารย์เเละนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.รุ่นที่ 62) วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ที่เดินทางมาศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย กล่าวบรรยายสรุปถึงการพัฒนาพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยเฉพาะในด้านของการพัฒนาศักยภาพในเรื่องของการท่องเที่ยวตลอดจนถึงปัญหาและอุปสรรคในด้านการบริหารจัดการบางด้านไม่ว่าจะเป็นปัญหาการจราจรและโครงสร้างพื้นฐานที่ยังไม่เพียงพอทั้งถนน ท่าเรือ หรือสนามบิน ปัญหาการจัดการน้ำเสียจากการพัฒนา ปัญหาขยะที่เพิ่มขึ้นและการบริหารจัดการขยะ ปัญหาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและปัญหาน้ำท่วมซึ่งบางส่วนเกิดจากน้ำทะเลหนุน ทั้งนี้เพื่อให้ทางนักศึกษาได้รับทราบถึงปัญหาต่างเพื่อเป็นข้อมูลในการให้ส่วนราชการต่างๆได้จัดทำแผนในการแก้ไขปัญหาต่อไป

หลังจากนั้นทางคณาจารย์เเละนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.รุ่นที่ 62) วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศนำโดย พลโทสัณห์เพชร สายสรรพมงคลที่ปรึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรนำคณาจารย์เเละนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.รุ่นที่ 62) เข้าศึกษาดูงานการบริหารจัดการขยะในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตและนายถาวร จิรพัฒนโสภณ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ตกล่าวต้อนรับและบรรยายสรุป

นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ได้สรุปภาพรวมการบริหารจัดการขยะในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยกล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยวกว่า 4 แสนล้านบาทซึ่งการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทำให้ภาครัฐต้องจัดให้มีระบบสาธารณูปโภคไว้รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาปริมาณขยะมูลฝอยที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปริมาณขยะมูลฝอยที่เข้าสู่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ตมีปริมาณเฉลี่ยวันละ 530 ตัน/วัน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 7 ต่อปี ปัจจุบันเทศบาลนครภูเก็ตได้ให้สัมปทานแก่ บริษัท พีเจที เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างและบริหารโรงเผาขยะ รวมถึงผลิตกระแสไฟฟ้าสามารถเผาขยะมูลฝอยชุมชนได้วันละ 300 ตัน และผลิตกระแสไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 5 MW (เมกะวัตต์)

ส่วนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเทศบาลนครภูเก็ตได้คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นสำคัญนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการขยะจังหวัดภูเก็ตโดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชนและประชาชนร่วมเป็นคณะกรรมการ มีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน ศึกษาผลกระทบทั้งทางน้ำ ทางอากาศ รวมถึงน้ำใต้ดิน รายงานไปยังกรมควบคุมมลพิษและตรวจสอบความพึงพอใจของชุมชนรอบเตาเผาขยะ ในระยะ 1 กิโลเมตรทุกเดือน นอกจากนี้ยังมีแผนส่งเสริมการจัดการขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ต ลดขยะตั้งแต่ต้นทางตามหลัก 3Rs นำขยะอินทรีย์ที่มีปริมาณสูงถึง 6 ตัน/วันให้ชาวบ้านนำไปใช้เลี้ยงสัตว์ ทำปุ๋ยและรีไซเคิล ส่งเสริมนวัตกรรมถังหมักปุ๋ยอินทรีย์เเบบใช้อากาศในภาคครัวเรือนส่วนขยะอันตรายจะมีการรวบรวมเป็นรายเดือนเพื่อนำส่งไปทำลายยังบริษัทเอกชนที่รับมาตรฐาน ทั้งนี้เพื่อช่วยกันลดปริมาณขยะในจังหวัดภูเก็ตและสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งเเวดล้อมให้ภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

นอกจากนี้คณะอาจารย์ นักศึกษา วปอ.รุ่นที่ 62เข้าศึกษาดูงานด้านความมั่นคงทางทะเล นำโดยพลตรี ชำนาญ ช้างสาต ผู้อำนวยการสำนักวิทยาการความมั่นคง วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เข้าถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ตจากนั้น คณะวปอ.รุ่นที่ 62 ได้เข้าไปยังห้องประชุมทัพเรือภาคที่ 3 เพื่อเข้าพบปะพูดคุย และรับฟังบรรยายภารกิจการดำเนินงานของทัพเรือภาคที่ 3 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 3หรือ ศรชล.ภาค3 โดยมี พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 กล่าวต้อนรับ โดยทางทัพเรือภาคที่ 3 ได้เข้าบรรยายถึงภารกิจ และพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 3 ในจังหวัดภาคใต้ฝั่งดามันของประเทศไทย ทั้งจังหวัดระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล ที่ต้องดูแลด้านความมั่นคงทางทะเล เพื่อป้องกันรักษาผลประโยชน์ของชาติ และอุบัติภัยต่างๆ ที่จะขึ้นกับประชาชนและนักท่องเที่ยวทางทะเล พร้อมได้ชี้แจงบริบทการแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางทะเลที่ทางทัพเรือภาคที่ 3 และศรชล.ภาค 3 ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อาทิ ปัญหาเขตแดนบริเวณน่านน้ำไทย และเมียนมา ปัญหาการทำการประมงล้ำเขตน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้าน ปัญหายาเสพติด และปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำมันหนีภาษี จากนั้น ได้มีการสาธิตการรักษาด้านความมั่งคง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทะเล โดยสมมติสถานการณ์การก่อการร้ายในเรือท่องเที่ยวทางทะเล การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ ซึ่งจะมีการให้ความช่วยเหลือทั้งช่องทางน้ำโดยเรือ และช่องทางอากาศโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ของทัพเรือภาคที่ 3