จังหวัดภูเก็ตจัดเลี้ยงอาหารแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2562  ที่โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เลี้ยงอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยมี นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ คณะครู นักเรียน และและประชาชนจิตอาสา เข้าร่วม

ทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศจัดตั้งโรงเรียนศึกษาพิเศษภูเก็ตเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2536 เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการขยายโอกาสทางการศึกษาสำหรับคนพิการให้ทั่วถึงเพื่อให้เด็กนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา และทางการได้ยิน โดยสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบจัดครูและจัดการสอนแบบสหศึกษา เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายพร้อมจัดบริการอาหารวัสดุการศึกษา วัสดุการแต่งกาย การฟื้นฟุสมรรถภาพทางร่างกาย สุขภาพ และอาหารเสริม กินอยู่ประจำมีหอพักบริเวณโรงเรียน และในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศเปลี่ยนชื่อโรงเรียนจาก โรงเรียนศึกษาพิเศษภูเก็ต เป็นโรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล จังหวัดภูเก็ต

โรงเรียนภูเก็ตปัญญานุกูล มีภารกิจหลักตามประกาศจัดตั้งของกระทรวงศึกษาธิการให้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนแก่เด็กพิการทางด้านสติปัญญา โดยได้รับการสนับสนุนดำเนินการจากเงินงบประมาณ เป็นเงินอุดหนุนเกี่ยวกับค่าอาหาร ค่าวัสดุอุปกรณ์ ปัจจัย พื้นฐาน ค่าเสื้อผ้าเป็นต้นแต่เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงประกอบกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงได้เห็นความสำคัญในการได้รับการศึกษาสำหรับ บุตรหลานที่พิการประเภทต่างๆและมีความประสงค์จะให้บุตรหลานพิการได้เรียนใกล้บ้านทำให้โรงเรียนต้องจัดการเรียนการสอนแก่เด็กพิการทางสติปัญญา เด็กพิการทางการได้ยิน และรวมถึงเด็กพิการประเภทอื่น ๆ ด้วย เช่น เด็กพิการทางอารมณ์และพฤติกรรม ซีพี และออทิสติก เป็นต้น การรับนักเรียนเข้าเรียน เป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา บกพร่องทางการ ได้ยินและออทิสติก ในจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และระนอง หรือจังหวัดใกล้เคียงอื่น ตั้งแต่ระดับก่อนปฐมวัยจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

การจัดการเรียนการสอน เป็นแบบสหศึกษา จัดนักเรียนเข้าชั้นเรียนโดยการ แยกประเภท ระดับความพิการ และศักยภาพของแต่ละคนในอัตราต่อ ห้องเรียน คือ 1 : 8 ใช้หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ โดยการยืดหยุ่นทั้งเนื้อหาสาระระยะเวลาการวัดผลและประเมินผลเพื่อให้เหมาะสมตามศักยภาพ ของเด็กนักเรียนแต่ละคน