จังหวัดภูเก็ตประชุมอนุกรรมการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

61009362_344980796200606_95343313283973120_o

60926415_344981099533909_6504005208400461824_o

60760329_344981122867240_2824173548124241920_o

61100090_344980922867260_1702616166750486528_o

60889100_344981002867252_4282967720015691776_o

60723070_344981229533896_4015173867705204736_o

จังหวัดภูเก็ตประชุมอนุกรรมการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ 3/2562

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562  เวลา 13.45 น.นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ 3/2562 ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ, ฝ่ายปกครอง, ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

สำหรับในที่ประชุมได้มีการรายงานการใช้จ่ายงบประมาณการขับเคลื่อนภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตจังหวัด (ศปท.จ) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 และติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงานโครงการตามแผนบูรณาการต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบประจำปี งบประมาณ พ. ศ. 2562 ของจังหวัดภูเก็ต โดยผลการดำเนินงานการเบิกจ่ายและการจัดกิจกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
จากนั้นนายปรีชานันท์ พุ่มเล็ก ผู้อำนวยการสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัดภูเก็ตได้ชี้แจงกรณีการนำรถยนต์ส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจำตำแหน่ง โดยมีสาระสำคัญดังนี้ สำนักนายกฯ ขอความร่วมมือให้ส่วนราชการต่าง ๆ กำกับดูแล ควบคุม และตรวจสอบการใช้รถส่วนกลางที่อยู่ในความควบคุมและรับผิดชอบของหน่วยงานในสังกัด เพื่อให้การใช้รถส่วนกลางของส่วนราชการเป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบฯ โดยให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้

  1. กำกับดูแล ควบคุม และตรวจสอบการใช้รถส่วนกลางที่อยู่ในความควบคุมและรับผิดชอบ ให้นำไปใช้เพื่อกิจการอันเป็นส่วนรวมของส่วนราชการ หรือเพื่อประโยชน์ของทางราชการตามหลักเกณฑ์ที่ส่วนราชการเจ้าของรถนั้นกำหนดขึ้นเท่านั้น เพื่อมิให้มีข้าราชการในสังกัดที่มิได้ดำรงตำแหน่งที่มีรถประจำตำแหน่งนำรถส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจำตำแหน่ง
  2. ตรวจสอบใบอนุญาตขอใช้รถส่วนกลางตามแบบ 3 ท้ายระเบียบฯ โดยเปรียบเทียบกับหลักฐานการใช้รถส่วนกลางตามแบบ 4 ท้ายระเบียบฯ ว่าพนักงานขับรถได้ลงรายการตามความเป็นจริงหรือไม่ และถูกต้องตรงตามหลักฐานการเบิกจ่ายค่าเชื้อเพลิงของรถส่วนกลางหรือไม่ เพื่อเป็นหลักฐานการนำรถส่วนกลางไปใช้เพื่อกิจการอันเป็นส่วนรวมของราชการ หรือเพื่อประโยชน์ของทางราชการตามหลักเกณฑ์ที่ส่วนราชการเจ้าของรถกำหนดขึ้น
  3. ในกรณีที่ตรวจสอบพบว่า มีข้าราชการรายใดที่มิได้ดำรงตำแหน่งที่มีรถประจำตำแหน่ง นำรถส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจำตำแหน่ง ให้หัวหน้าส่วนราชการต้นสังกัดพิจารณาดำเนินการลงโทษทางวินัยแก่ข้าราชการรายนั้น และผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
  4. ในการขออนุญาตนำรถส่วนกลางไปเก็บรักษาที่อื่นเป็นการชั่วคราวอันเนื่องมาจากส่วนราชการไม่มีสถานที่เก็บรักษาให้ปลอดภัยอย่างเพียงพอ ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษารถส่วนกลางจัดทำรายงานการขออนุญาต พร้อมด้วยเหตุผลความจำเป็นและรายละเอียดของสถานที่ที่จะนำไปเก็บรักษา ซึ่งแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีความปลอดภัยเพียงพอ เสนอประกอบการพิจารณาของผู้อำนาจอนุญาตด้วยทุกครั้ง และเมื่อได้รับอนุญาตดังกล่าวแล้ว ให้ส่วนราชการรายงานผู้รักษาการตามระเบียบฯ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทราบด้วยตามนัยระเบียบฯ ข้อ 16 ทวิ
  5. กรณีที่รถส่วนกลางคันใด ได้รับอนุมัติยกเว้นการมีตราเครื่องหมายและอักษรชื่อแสดงสังกัดของส่วนราชการไว้ที่ด้านนอกรถ หรือได้รับอนุญาตให้นำไปเก็บรักษาที่อื่นเป็นการชั่วคราว อันเนื่องมาจากส่วนราชการไม่มีที่เก็บรักษาปลอดภัยเพียงพอ ส่วนราชการต่าง ๆ สมควรพิจารณาทบทวนเหตุผลและความจำเป็นของการอนุมัติหรืออนุญาตดังกล่าวในช่วงเวลาอันเหมาะสมอยู่เสมอ เช่น อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อป้องกันมิให้มีการนำรถส่วนกลางไปใช้เสมือนเป็นรถประจำตำแหน่ง และเบิกจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของรถส่วนกลางอันเป็นเท็จอีกทางหนึ่ง รวมทั้งรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้คณะกรรมการรถราชการเพื่อทราบด้วย

จากนั้นที่ประชุม ได้กำหนดจัดการประชุมเพื่อขับเคลื่อนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐประจําปีงบประมาณ พ. ศ. 2562 ในวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม 2562 เวลา 13:30 – 16.30 น.ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

 

 

Comments are closed.