จังหวัดภูเก็ต สั่งเฝ้าระวังการขนย้ายยาเสพติด ทางเรือ ขอให้เจ้าหน้าที่กวดขันจดทะเบียนการเข้าออกของเรืออย่างเข้มงวด พบพืชกระท่อมยังคงระบาดเป็นอันดับแรก

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 เวลา 13.30 น.ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 4/2560 โดยมี นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายสนิท ศรีวิหค กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตยังคงมีปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดอยู่อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังตลอดมา แต่ปัญหาดังกล่าวก็มิได้หมดไป โดยพืชกระท่อม,ยาบ้า,ไอซ์และกัญชายังเป็นยาเสพติดที่มีการแพร่ระบาดเป็นอันดับแรก สำหรับกลุ่มอายุที่มีการเสพยาเสพติดมากที่สุดคือช่วงอายุ 18 – 24 ปีมากที่สุดรองลงมาคือช่วงอายุ 25 – 29 ปี ทั้งนี้อาชีพรับจ้างเป็นกลุ่มที่เสพยาเสพติดมากที่สุด อำเภอเมืองแพร่ระบาดมากเป็นอันดับ 1 รองลงมาคืออำเภอถลางและอำเภอกะทู้

สำหรับแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปี 2560 ของจังหวัดภูเก็ตประกอบด้วย 4 แผน คือ แผนปราบปรามยาเสพติด แผนป้องกันยาเสพติด แผนบําบัดรักษายาเสพติด และแผนบริหารจัดการอย่างบูรณาการ ซึ่งการ ดําเนินงานตามมาตรการต้องเป็นไปอย่างประสานสอดคล้องในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ อําเภอ จังหวัด ภาค และส่วนกลาง เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายสูงสุด คือ การแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนโดยจะเน้นงานสกัดกั้นยาเสพติด ดำเนินการสกัดกั้นตามด่านตรวจ/จุดตรวจ เสริมสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้าน/ชุมชนและกวดขัน การควบคุมพืชเสพติด ตั้งเป้าหมายแผนงาน ลดการปลูกพืชเสพติดในพื้นที่ที่มีการปลูกพืชเสพติดโดยเฉพาะพืชกระท่อม

นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากสถิติการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง โดยยาเสพติดที่มีการจับกุมมากที่สุด ได้แก่ พืชกระท่อม มีการแพร่ระบาดหนักในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีการสั่งการให้เฝ้าระวังอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ พบว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้มีการเปลี่ยนเส้นทางการขนย้ายยาเสพติดไปใช้ทางน้ำโดยใช้เรือประมงดำเนินการลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายแทนการขนย้ายทางบก จึงอยากขอความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการป้องกันปราบปรามปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะการเฝ้าระวังการลำเลียงยาเสพติดโดยใช้เรือประมงท้องถิ่นเป็นพาหนะ โดยขอให้ อำเภอและท้องที่ ช่วยประสานชุมชนท้องถิ่นช่วยแจ้งเบาะแสและช่วยจัดทำบัญชีสำรวจเรือประมงท้องถิ่นต่างๆ และให้มีการควบคุมทะเบียนเรือรวมถึงต้องกวดขันควบคุมการเข้าออกของเรือด้วย เนื่องจากพบว่ามีการลำเลียงพืชกระท่อม,ยาบ้า,ยาไอซ์ผ่านการขนส่งทางน้ำเป็นจำนวนมาก มีกระบวนการลำเลียงโดยใช้รูปแบบกองทัพมดซึ่งทำให้ยากต่อการจับกุมส่งผลให้ยาเสพติดแพร่ระบาดในกลุ่มประชาชน เยาวชน และนักท่องเที่ยวเกิดปัญหาด้านสังคมเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างมาก

ดังนั้น จังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีการสั่งการให้เฝ้าระวัง ปัญหายาเสพติดอย่างเคร่งครัด ตลอดจนหาทางแก้ไขปัญหายาเสพติดในเขตจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันและเพื่อยกระดับคุณภาพของประชาชนในจังหวัดภูเก็ต