จัดกิจกรรมวันท่องเที่ยวโลก world tourism day 2017

22042368_1888158204735099_6654075684165504219_o

21994088_1888158211401765_281358079892272048_o

21992695_1888158301401756_70076019182107360_o

จังหวัดภูเก็ต จัดกิจกรรมวันท่องเที่ยวโลก world tourism day 2017 เพื่อตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของการท่องเที่ยวที่มีผลต่อการเพิ่มมูลค่าทางสังคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจโลกในเพื่อส่งเสริมสนับสนุนหลักและการปฏิบัติทางการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนในจังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 เวลา 14.30 น. นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานเปิดงานกิจกรรมวันท่องเที่ยวโลก world tourism day 2017 ณ โรงแรม JWแมริออทภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา

ภายในงานได้มีการจัดแสดงผลงานโครงการที่ได้รับรางวัลระดับโลก Rockefeller Award ในด้าน Best CSR – Social Impact Partnership ผลงานยอดเยี่ยมในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน-ผลลัพธ์เพื่อสังคมที่ยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิRockefeller และ เดอะรีซอร์ส อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับจากองค์กรระหว่างประเทศที่ไม่แสวงหาผลกำไร มีกิจกรรมเรียนทำอาหาร Ancient Wild เมนูรังสรรค์จากวัตถุดิบของชุมชนปูดำ โดย เชฟจากโรงแรมเจดับบลิว แมริออทภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา และการเยี่ยมชมมูลนิธิเพื่อการอนุรักษ์เต่าทะเลหาดไม้ขาว ,เยี่ยมชมโครงการการท่องเที่ยวเพื่อชุมชนอย่างยั่งยืนในเขตพื้นที่ตำบลไม้ขาวหมู่ที่ 3 ชุมชนปูดำเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวประมงในชุมชน

นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 27 กันยายนของทุกปีเป็นวันท่องเที่ยวโลกเพื่อตระหนักถึงบทบาทและความสำคัญของการท่องเที่ยวที่มีผลต่อการเพิ่มมูลค่าของสังคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของโลกอันจะนำไปสู่บทบัญญัติในการปรับแผนพัฒนาการท่องเที่ยวในอนาคตซึ่งจังหวัดภูเก็ตได้ให้ความสำคัญในเรื่องการวางแผนและการปฏิบัติงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดโดยกำหนดยุทธศาสตร์ที่จะให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติและขณะเดียวกันมิได้ละเลยการส่งเสริมการท่องเที่ยวในมิติอื่น ๆ ทั้งมิติด้านท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมด้านอาหาร ด้านการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาเกตเวย์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เป็นต้น และสิ่งสำคัญของการพัฒนาการท่องเที่ยวคือชุมชนในท้องถิ่นต้องได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวด้วย ดังนั้นจังหวัดภูเก็ตจึงมีนโยบายในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคมและไม่ต้องการทิ้งใครไว้ข้างหลังเพื่อสร้างความยั่งยืนด้านใดด้านหนึ่ง สิ่งสำคัญต้องไม่มีการเอารัดเอาเปรียบด้วยจุดเด่นของจังหวัดภูเก็ตในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่ต่ำกว่า 13 ล้านคน ดังนั้นการที่นักท่องเที่ยวเข้ามาถือว่าเป็นผลประโยชน์ที่จะสร้างรายได้ให้กับ ชุมชนโดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของภูเก็ตเป็นแหล่งผลิตอาหาร อย่างเช่น อาหารทะเล,ภาคการเกษตรและภาคการประมง ถือเป็นครัวอาหารที่สำคัญของภูเก็ตเพราะฉะนั้นถือว่าตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติและทุกคนต้องได้รับประโยชน์ในความเสมอภาคกันโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามที่นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ย้ำมาโดยตลอด

21950918_1888158394735080_7760784253535911037_o