มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต จัดสัมมนา การบริหารจัดการบูรณาการในยุคไทยแลนด์ 4.0

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดภูเก็ต นาย สนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาทางรัฐประศาสนศาสตร์ การบริหารจัดการบูรณาการไทยแลนด์ 4.0 โดยมีนางแสงเดือน หังสวนัส รองคณบดีฝ่ายวิชาการคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต, นางเพ็ญศิริ จิตร์ประสาน ประธานชุมชนย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า, อาจารย์, นักศึกษาสาขารัฐประศาสนศาตร์มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต และสาขาอื่น ๆ รวมทั้งผู้ที่สนใจทั่วไป จำนวน 600 คน เข้าร่วม

นางแสงเดือน หังสวนัส รองคณบดีฝ่ายวิชาการคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ กล่าวว่า การจัดสัมมนาดังกล่าวเป็นโครงการประจำที่สาขาวิชาจัดขึ้นทุกปี โดยในปีนี้ จัดสัมมนาภายใต้หัวข้อ การบริหารจัดการบูรณาการในยุคไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเป็นการบูรณาการองค์ความรู้จากการจัดการเรียนการสอนรายวิชาต่างๆ เพื่อศึกษากรณีทางรัฐประศาสนศาสตร์กับองค์ความรู้ของท้องถิ่นมาบูรณาการและประยุกต์ใช้ในการศึกษาประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานภาครัฐ การบังคับใช้กฎหมายของรัฐ การพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น วิธีการบริหารจัดการ และแนวทางแก้ไขปัญหาด้านการบริหารต่างๆ ซึ่งได้แนะนำข้อค้นพบจากการศึกษามาปฏิบัติการสัมมนา เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของท้องถิ่นและประเทศ

นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า นับจากอดีตยุค ไทยแลนด์ 1.0 ที่เน้นเกษตรกรรมแบบดั้งเดิม ไปสู่ไทยแลนด์ 2.0 ที่เน้นอุตสาหกรรม โดยใช้ประโยชน์จากค่าจ้างแรงงานราคาถูกและทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ จนกระทั่งไทยแลนด์ 3.0 คือช่วงระยะที่เชื่อมต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้เน้นอุตสาหกรรมหนักที่มีความซับซ้อนดึงดูดการลงทุน จากต่างประเทศเพื่อนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก แม้ว่าจะทำให้ประเทศไทยมีเศรษฐกิจที่เติบโตเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำของความมั่นคงและความไม่สมดุลในการพัฒนาเป็นเสมือนกับดักที่ พันธนาการไม่ให้เราเติบโตเท่าที่ควร ดังนั้น รัฐบาลในยุคปัจจุบันจึงได้มีนโยบายขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทยในทุกมิติ เพื่อความเป็นไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มรูปแบบด้วยการพึ่งพานวัตกรรมหรือองค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยี โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจและศักยภาพในการแข่งขันของประเทศอย่างสมดุล

นายสนิท กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในการจัดสัมมนาในวันนี้ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาการศึกษาที่เน้นการสร้างคนให้มีความสามารถ มีคุณธรรม มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม โดยการพัฒนาเสริมสร้างทักษะ ความรู้ ความเชี่ยวชาญให้เท่าทันต่อความเป็นไปของโลกปัจจุบันเพื่อให้เป็นคนไทย 4.0 ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของนักศึกษาในการนำองค์ความรู้ทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์กับองค์ความรู้ของท้องถิ่นมาใช้ในการเรียนรู้ของนักศึกษาและสามารถนำไปพัฒนาท้องถิ่นและประเทศชาติต่อไป