ผู้ตรวจการแผ่นดินไทย จับมือผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ลงพื้นที่ตรวจสอบและศึกษาการดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างแยกสามกอง จังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2561 ห้องประชุมสำนักงานแขวงทางหลวงจังหวัดภูเก็ต พลเอก วิทวัส
รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในฐานะคณะกรรมการบริหารสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศและกรรมการบริหารในระดับภูมิภาคเอเชีย พร้อมด้วยนายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้การต้อนรับ และนำคณะ นายคริส ฟีลด์ (Mr. Chris Field) ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และรองประธานคนที่ 2 ของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (IOI : International Ombudsman Institute) โดยมีนายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการใช้งานและศึกษากระบวนการแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างทางลอดแยกสามกอง ถนนบายพาส

พลเอก วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  กล่าวถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจาก นายคริส ฟีลด์ (Mr. Chris Field) ผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และรองประธานคนที่ 2 ของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ ได้เดินทางมาเยือนผู้ตรวจการแผ่นดินของประเทศไทย‪อย่างเป็นทางการ จึงได้เชิญร่วมลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับกระบวนการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนที่ประสบผลสำเร็จของผู้ตรวจการแผ่นดินไทยในวันที่ 5-6 มกราคม 2561 โดยวันนี้เป็นการลงพื้นที่ ณ จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจสอบสภาพการใช้งานและศึกษาดูงานกรณีการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างทางลอดแยกสามกอง บริเวณถนนบายพาส อำเภอเมืองภูเก็ตที่ล่าช้ากว่า 1 ปี ส่งผลกระทบต่อชาวภูเก็ตเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะด้านความปลอดภัยในการจราจร เนื่องจากเป็นเส้นทางสัญจรสำคัญใจกลางเมืองภูเก็ต ซึ่งจากการลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนขอ

นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ตรวจสอบปัญหาอุปสรรคในการทำงานของหน่วยงาน พบว่ามีขยายเวลาให้กับผู้รับเหมามาแล้วถึง 5 ครั้ง ด้วยสาเหตุด้านการบริหารจัดการจราจรของเมืองภูเก็ตในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว จึงต้องมีการระงับการก่อสร้างชั่วคราวในช่วงนั้น ๆ รวมทั้งอุปสรรคจากระบบสาธารณูปโภคที่ติดตั้งอยู่ใต้ดินระหว่างการขุดเจาะ จึงให้ข้อเสนอแนะในการบูรณาการผสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งได้ติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ส่งผลให้การก่อสร้างมีความต่อเนื่องและเสร็จสิ้นเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา

การลงพื้นที่ร่วมกันครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญผู้ตรวจการแผ่นดินของทั้งสองประเทศจะได้หารือ แลกเปลี่ยนแนวทางการจัดการเรื่องร้องเรียนเชิงประจักษ์ รวมถึงการกระชับสัมพันธภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศ และในฐานะที่ตนดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศและกรรมการบริหารในระดับภูมิภาคเอเชีย เป็นโอกาสอันดีในนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนตามแนวทาง “กัลยาณมิตร” คือ มุ่งเป็นองค์กรกลางในการบูรณาการผสานความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเสนอแนะทางออกอันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ซึ่งสาระสำคัญจากการลงพื้นที่ครั้งนี้อาจเป็นประโยชน์ต่อประเทศสมาชิกในการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนให้เหมาะกับบริบทของตนเอง ในเวทีของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ (IOI) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินกว่า 190 องค์กร จากทั่วโลกร่วมเป็นสมาชิก เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และพัฒนาความร่วมมือที่มีคุณูปการต่อไป

นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ประชุมรับฟังการรายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาดังกล่าว ร่วมกับผู้แทนจังหวัดภูเก็ต นายสมหวัง โลหณุต ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นนำคณะผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการใช้งาน ณ บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 402 กับถนนเยาวราช (แยกสามกอง) ถนนบายพาส อำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันได้ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา