ชมรมอวนล้อมจับจังหวัดภูเก็ตยื่นหนังสือผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต

29684206_1962415633976022_8585752238746501120_n

29695252_1962415787309340_3505960633830998016_n

29790460_1962415910642661_1009603939202498560_n

30123827_1962415620642690_1588693997470089216_n

ชมรมอวนล้อมจับจังหวัดภูเก็ตยื่นหนังสือผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลในเรื่องความเดือดร้อนของชาวประมงเนื่องจากการออกประกาศของรัฐ เพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2561  ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้รับหนังสือจากชมรมชาวประมงอวนล้อมจับจังหวัดภูเก็ต เรื่อง ความเดือดร้อนของชาวประมงเนื่องจากการออกประกาศของรัฐ เพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายเพื่อส่งต่อไปยังรัฐบาล โดยมีนายอิสรพงศ์ ศรีสุภาวดี ประธานชมรมอวนล้อมจับจังหวัดภูเก็ตและสมาชิกชมรม เข้าร่วม

นายอิสรพงศ์ ศรีสุภาวดี กล่าวว่า จากการที่กลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ได้ประกาศให้ใบเหลืองกับไทยจากปัญหา IUU Fishing เพื่อแก้วิกฤติสถานการณ์อย่างเร่งด่วน รัฐบาลจึงออกประกาศพระราชบัญญัติการประมงปี พ.ศ. 2558 จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมายเพื่อการปฏิรูปกิจการประมงไทยและต่อมากรมประมงและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้มีประกาศบังคับใช้กฎหมายหลายร้อยฉบับต่อเนื่องอย่างเร่งรีบในระยะเวลาอันสั้น โดยมิได้มีกระบวนการการเข้ามามีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้ประกอบกิจการประมงที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง ไม่มีการทำการศึกษาทดลองความเหมาะสมว่าสอดคล้องในวิธีปฏิบัติของลักษณะการประมงไทยแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ด้วยข้อกฎหมายที่ถูกกำหนดและประกาศใช้โดยนักวิชาการที่ขาดองค์ความรู้ ขาดข้อมูลข้อเท็จจริงในภาคปฏิบัติ จึงทำให้กฎหมายไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงและต้องทำการออกประกาศแก้ไขตามมาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นความซ้ำซ้อนและย้อนแย้งในตัวเอง อีกทั้งรายละเอียดของข้อบังคับที่ออกประกาศใช้มานั้นมีระดับมาตรฐานสูงเกินการปฏิบัติได้จริง การเพิ่มบทลงโทษทั้งทางแพ่ง ทางอาญาที่รุนแรงไม่ให้ระยะเวลาในการปรับตัว ทำให้เกิดความหวาดกลัว วิตกกังวล เกิดความเสียขวัญกับผู้ประกอบกิจการประมงทั่วประเทศเกิดความอ่อนแอจนเข้าขั้นวิกฤติของระบบประมงไทย

โดยในหนังสือได้มีการขอให้รัฐบาลทบทวนประกาศหรือคำสั่งต่าง ๆ ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวประมงที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย รวมถึงขอให้ชาวประมงได้มีส่วนร่วมในการทบทวนประกาศ คำสั่งต่าง ๆ ที่สร้างเงื่อนไขจนขัดแย้งกับวิถีการทำประมงของชาวประมงไทยและบั่นทอนความมั่นคงในกิจการประมงไทยที่สืบทอดมายาวนานจากบรรพบุรุษ

ทั้งนี้นายอิสรพงศ์ กล่าวว่า หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ ชาวประมงจะนำเรือเข้าจอดทั้งหมดในวันที่ 9 เมษายน 2561 เพราะหากออกทำการประมงก็สุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมายและจะออกเรือจนกว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไข

ด้านนายนรภัทร ปลอดทอง กล่าวว่า จะได้นำปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงอวนล้อมจับจังหวัดภูเก็ตเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป

 

Comments are closed.