ภูเก็ต สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ประชุมระดมความเห็นต่อมาตรการ 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่

 ที่ห้องประชุมแววราไวย์ โรงแรมเมโทรโพล อ. เมือง จ. ภูเก็ต ดร.ภาคภูมิ ทุกขะเมธ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวหน้าโครงการวิจัยพร้อมคณะวิจัยได้ประชุมระดมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับมาตรการ 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีส่วนราชการและภาคประชาชนในจังหวัดภูเก็ต

ผศ. ดร.ภาคภูมิ ทุกขะเมธ กล่าวว่า สำหรับวัตถุประสงค์ของการประชุมรับความคิดเห็นในครั้งนี้ได้แก่ มาตรการในพื้นที่ดำเนินการเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปัญหาและปัจจัยในพื้นที่ที่ส่งผลต่อการดำเนินการต่าง ๆ และสัมฤทธิ์ผล ตลอดจนข้อเสนอในการขับเคลื่อนมาตรการเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตในช่วงเทศกาลปีใหม่

ผศ.ดร.ภาคภูมิ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นย่อยในการพิจารณาได้แก่จะมีกลไกหรือวิธีในการสร้างหลักประกันอย่างไรให้เจ้าหน้าที่มีการตรวจจับอย่างเข้มข้นจริงจัง, มีวิธีใดบ้างที่ช่วยให้การตรวจจับมีประสิทธิภาพบนข้อจำกัดของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควรมีเครื่องมือเสริมอย่างไรหรือไม่, จะมีการวิธีการจัดการอย่างไรในการตรวจจับต้นตอของการเกิดเหตุเช่น แหล่งขาย ผู้จัดงานรื่นเริง เจ้าของร้านเหล้า เจ้าของรถผู้บริหารองค์การ, มีวิธีให้เกิดการกระทำผิดซ้ำได้อย่างไร,การรณรงค์ให้กลัวการตรวจจับอย่างไรให้ได้ผล, จะมีวิธีอย่างไรให้คนในสังคมจัดลำดับความสำคัญเรื่องอุบัติเหตุมาก่อนเรื่องอื่น ๆ , จะอาศัยการมีส่วนร่วมในการสร้างความตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไร เช่น ร่วมวิเคราะห์ปัญหา วิเคราะห์จุดเสี่ยง ร่วมออกแบบการแก้ไขปัญหาร่วมกันได้อย่างไร, จะมีวิธีการสร้าง “ดราม่า” เพื่อเรียกร้องความสนใจจากสังคมในเรื่องอุบัติเหตุได้อย่างไรในระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอและชุมชนต่าง ๆ ได้อย่างไร, ปัจจุบันกลไกโครงสร้างในการทำงาน 7 วันอันตรายเป็นอย่างไร มีปัญหาหรือไม่มีข้อเสนอให้ปรับเปลี่ยนอย่างไร, รูปแบบควรจะผสมผสานกลไกที่มีทั้งเอกภาพในการสั่งการและกระจายอำนาจในลักษณะใดหรือไม่, KPI จากส่วนกลางควรต้องมีหรือไม่ ในการขับเคลื่อนและต้องมี KPI หลายระดับหรือไม่และจะช่วยทำให้งานป้องกันอุบัติเหตุได้ผลอย่างไร, มาตรการ 7 วันอันตรายควรปรับเปลี่ยนอย่างไรหรือไม่ ในแต่ละเดือนควรมีการดำเนินมาตรการป้องกันอุบัติเหตุจราจรอย่างไร ใครควรรับผิดชอบบ้าง, จะมีวิธีการอย่างไรในการแก้ปัญหาอุปสรรคของผู้ขับขี่ให้มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การขับรถเร็ว การไม่สวมหมวกนิรภัยและการดื่มแล้วขับ และสังคมไทยเป็นสังคมที่ประนีประนอมและเต็มไปด้วยระบบอุปถัมภ์ การแก้ปัญหาอุบัติเหตุควรจะมีวีอย่างไรจึงจะได้ผลและเหมาะสมกับสังคมไทยมากที่สุด

ทั้งนี้เพื่อนะจำข้อมูลที่ได้ไปวางมาตรการในการลดอุบัติเหตุในเทศกาลต่าง ๆ เพื่อลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนต่อไป