ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคงกองทัพบก (ผอ.สปร.ทบ.) พร้อมคณะติดตามผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมร่วมหารือและประสานขอความร่วมมือ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2561 เวลา 14.30 น. ณ ห้องประชุม ลดาวัลย์ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พล.อ.พัฒนา มาตร์มงคล ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคงกองทัพบก (ผอ.สปร.ทบ.) พร้อมคณะได้เดินทางมาติดตามผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมร่วมหารือและประสานขอความร่วมมือ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีนายถาวรวัฒน์ คงแก้วรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต , นายณรงค์ อ่อนอินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด ,นายณฐวรรณ จำลองกาศ ผู้อำนวยการสำนักงาน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต, นายฉลาด แก้วขาว เกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต, นายมนตรี พรผล ผู้อำนวยการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพพระรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายถาวรวัฒน์ คงแก้วรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับจังหวัดภูเก็ต มีการดำเนินโครงการตามแนวพระราชดำริ ประกอบด้วย 1.โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับพระราชานุญาตจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่ปี 2544 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ประชาชนเยาวชนได้เห็นความหลากหลายแห่งศักยภาพของทรัพยากรไทย ได้เข้ามาเรียนรู้อนุรักษ์พัฒนาและใช้ประโยชน์ทรัพยากรของชาติอย่างยั่งยืน โดยขณะนี้จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการอยู่ในระยะที่ 5 ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2560 จังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยจัดกิจกรรม ดังนี้ กิจกรรมเข้าค่ายเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาพระแทว กิจกรรมสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์เรียนรู้และการใช้ประโยชน์จากพืชอนุรักษ์ รับผิดชอบโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรภูเก็ต กิจกรรมส่งเสริมการปลูกและดูแลดูแลรักษาส้มแขก (ส้มควาย) ดำเนินการโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต และกิจกรรมจัดทำเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์โครงการของหน่วยงานของ อพ.สธ. รับผิดชอบโดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต และการดำเนินงานโครงการมีการขยายผลไปสู่นักเรียนในโรงเรียนต่างๆ จำนวน 9 โรงเรียน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
พล.อ.พัฒนา มาตร์มงคล ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคงกองทัพบก (ผอ.สปร.ทบ.) กล่าวว่า จากการได้รับฟังโครงการฯต่างๆในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่ง โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชนอกจากจะส่งเสริมรักษาพันธุ์พืชที่หายากแล้ว ยังจะเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวได้อีกด้วย ส่วน 2.โครงการจัดหาแหล่งน้ำช่วยเหลือราษฎรบ้านป่าครองชีพอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต อันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (โครงการก่อสร้างฝายคลองพระแทว) เป็นโครงการเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่มีความเดือดร้อน ซึ่งมีประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการ และปัจจุบันมีการบำรุงรักษาและซ่อมแซม เพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และ 3.โครงการอุทยานเทิดพระเกียรติหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต และภาคเอกชนจังหวัดภูเก็ต ร่วมดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมให้หาดสุรินทร์ เป็นอุทยานเทิดพระเกียรติ และต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับจังหวัดภูเก็ตอีกแห่งหนึ่ง
ทั้งนี้ในส่วนของโครงการเพื่อส่งเสริมให้หาดสุรินทร์ จะมีการนำเรื่องราวกิจกรรมเทิดพระเกียรติ พระสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ ควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมพื้นที่สาธารณะอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน มีโครงการที่จะพัฒนาให้เป็นอาคารบริการ ,ศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเล , อาคารแสดงสินค้า , อาคารโครงการพระราชดําริ 77 จังหวัด , ลานวัฒนธรรม , อาคารจุดชมวิว , อนุสาวรีย์มหาราช 9 พระองค์,อาคารเฉลิมพระเกียรติภาพถ่าย ร.9 , พิพิธภัณฑ์เรือใบ , พลับพลาที่ประทับ , สนามกอล์ฟหลุม 7 เป็นต้น โดยการดำเนินโครงการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งหมดกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้รับการอนุมัติงบประมาณบางส่วนมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การทำโครงการแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งบริเวณชายหาดสุรินทร์







