ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประชุมติดตามงานตามโครงการวาระยามเช้า บำบัดทุกข์ บำรุงสุข เร่งขับเคลื่อนการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดใน บริเวณ 5 แยกฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
วันที่ 20 มีนาคม 2561 เวลา 07.30 น. ที่ห้องประชุมจวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานประชุมติดตามงานกับหัวหน้าส่วนราชการ ตามโครงการวาระยามเช้า บำบัดทุกข์ บำรุงสุข โดยมีนายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ,นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต , นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช ปลัดจังหวัดภูเก็ต,นายอำเภอเมือง,นายอำเภอกะทู้,ทหาร , ตำรวจ , หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วม
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ติดตามประเด็นสำคัญที่เป็นเรื่องเร่งด่วน คือ ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาจราจร ได้ดำเนินการขยับแท่งแบริเออร์คอนกรีต ที่บริเวณด้านหน้า โรงเรียน อบจ. เพื่อเพิ่มผิวจราจรให้กว้างขึ้น และตัดแต่งต้นไม้ที่ล้ำมาบริเวณถนน โดยดำเนินการเสร็จแล้ว ทำให้มีผิวการจราจรเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งได้ขยับแท่งแบริเออร์คอนกรีต จุดก่อนถึงวงเวียน เพื่อขยายช่องทางจราจร 2 ช่องให้กว้างขึ้น สำหรับการรื้อย้ายวงเวียนยังไม่ได้ดำเนินการ ทั้งนี้จะดำเนินการติดตั้งป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงไป กะตะ-กะรน โดยผลจากการแก้ปัญหาในเบื้องต้นดังกล่าว ทำให้การจราจรคลี่คลาย และลดการจราจรที่แออัดได้ดีขึ้น
จากนั้นที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการออกแบบ วงเวียนบริเวณประตูเมืองภูเก็ต (Gate Way) ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้เร่งดำเนินการเรื่องการขอใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง เพื่อให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ตได้ออกแบบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบต่อไป
โอกาสนี้ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ติดตามเรื่องของการส่งเสริมตลาดนัดทุ่งนาหลวง ทุกวันเสาร์กำหนดเปิดตลาดเสาร์แรกในวันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2561 โดยจะมีการจำลองเป็นตลาดน้ำมีเรือไม่น้อยกว่า 10 ลำ กำหนดทำทางเดิน ที่มีหลังคา ให้มีจุดพักรถ และให้เทศบาลในพื้นที่เร่งดำเนินการจัดทำโครงการขยายระบบสาธารณูปโภค เรื่องของระบบน้ำประปา ระบบการไฟฟ้า สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่จะเข้าไปจำหน่ายสินค้าในพื้นที่ตลาดนัดทุ่งนาหลวงขอให้พิจารณาประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ รวมถึงประชาชนที่จำนวนสินค้าอยู่ข้างทางก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้
ต่อมาที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการจัดระเบียบท่าเทียบเรือบ้านบางโรง ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตโดยการดำเนินการในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว มติ ครม.กำหนดให้มีการจัดทำรายงานวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม ดังนั้นขอให้เทศบาลตำบลป่าคลอกเร่งจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้หากท่าเทียบเรือบ้านบางโรงดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้จังหวัดภูเก็ตมีพื้นที่ท่าเทียบเรือที่มีศักยภาพรองด้านการขนส่งทางน้ำ และจังหวัดจะใช้ประโยชน์พื้นที่ดังกล่าวในการที่จะวางระบบเรื่องการป้องกันสาธารณภัย ทางน้ำด้วย
สำหรับความคืบหน้าการขุดลอกคูคลองในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้รับผิดชอบการขับเคลื่อนโครงการโดยภาพรวม และให้เร่งจัดแผนแม่บทการบำบัดน้ำเสียของจังหวัดภูเก็ตทั้งระบบ โดยจะต้องมีรายละเอียดระบบการรวบรวมน้ำเสียในพื้นที่ทั้งหมด ประสิทธิภาพของการบำบัดน้ำเสียได้กี่ลูกบาศก์เมตรและน้ำเสียที่ไม่สามารถเข้าระบบได้จำนวนเท่าไหร่และจะมีแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างไร ทั้งนี้ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญกับการนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้ในการจับกุมสถานประกอบการและบ้านเรือนของประชาชนที่มีการลักลอบปล่อยน้ำเสียอย่างเข้มงวด
ในส่วนของระบบการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต จัดทำช่องทางในการสื่อสารเพื่อการบรรเทาและป้องกันสาธารณภัย อาทิ การสร้างกลุ่มไลน์ของ อปพร.เพื่อรวบรวมข้อมูลการแจ้งเบาะแสภัยพิบัติต่างๆ โดยขณะนี้จังหวัดภูเก็ตมีระบบ Database ฐานข้อมูลเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์ของนักเรียนนักศึกษาในสถานศึกษาโดยเมื่อกล้อง CCTV มีการจับภาพพบการกระทำความผิดของนักเรียนจะต้องมีเจ้าหน้าที่ Monitor และจะต้องส่งข้อมูลการกระทำผิดให้สถานศึกษาเพื่อดำเนินการในการตัดคะแนนของนักเรียน พร้อมกันนี้จะเปิดช่องทางให้ประชาชนแจ้งข่าวสารแก่ทางราชการด้วย เพื่อเพิ่มมาตรการการลดอุบัติทางถนนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้พบว่าข้อมูลการเกิดสถิติของอุบัติเหตุในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตพบในกลุ่มประชาชนอายุ 18-24 ปีมากที่สุดซึ่งเป็นกลุ่มของนักเรียนนักศึกษาในสถานศึกษา และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีมาตรการเข้มควบคุมกำกับให้สถานประกอบการผู้ประกอบการที่มีรถเช่า รถจักรยานยนต์จะต้องมีคำเตือนคำแนะนำ ผู้เช่ารถจะต้องมีใบขับขี่และขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง ซึ่งคําเตือนและคำแนะนำจะต้องมีทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษและภาษาจีน ฯลฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบและปฏิบัติตามกฎหมาย







