สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) จัดสัมมนา “พลิก Up ธุรกิจ ต่อติดด้วยทรัพย์สินทางปัญญา” เปิดเวทีเติมเต็มความรู้ ประสบการณ์ พร้อมแนวคิดพลิกธุรกิจด้วยทรัพย์สินทางปัญญา มุ่งยกระดับผู้ประกอบการจังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560  ที่โรงแรมเมโทรโพล ภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายชัยณรงค์ ฉัตรรัตนวารี รักษาการในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายมาตรฐานส่งเสริม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง “พลิก Up ธุรกิจ ต่อติดด้วยทรัพย์สินทางปัญญา” โดยมี นายประชา อัศวะธีระ รักษาการ ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภูเก็ต, ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต, ผู้ประกอบการ SMEs และประชาชนที่สนใจเข้าร่วม

นายชัยณรงค์ ฉัตรรัตนวารี รักษาการในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายมาตรฐานส่งเสริมสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กล่าวว่า DEPA ได้เดินหน้าพัฒนาความรู้สร้างความเข้าใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs และผู้สนใจนำองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา มายกระดับธุรกิจ สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ในงานสัมมนาพลิก UP ธุรกิจ ต่อติดด้วยทรัพย์สินทางปัญญา โดยจัดเป็นครั้งที่ 3 ในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการ SMEs ได้มาร่วมกันนำเสนอความคิด ประสบการณ์ คำแนะนำ ในการนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ในการแข่งขันทางธุรกิจ ซึ่งถ้าผู้ประกอบการต้องการอยู่รอดในระยะยาวได้ ต้องมีนวัตกรรมเพื่อให้เกิดความแตกต่างจากคู่แข่งขัน และต้องสามารถพัฒนาต่อยอดได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการในทุกภาคได้รับความรู้อย่างเท่าเทียม ทาง DEPA จึงได้กำหนดจัดสัมมนาทั้งสิ้น 7 ครั้ง 7 จังหวัด ครอบคลุมทั่วประเทศ

สำหรับหัวข้อและเนื้อหาในการสัมมนาในโครงการนี้มีหลากหลาย เช่น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยไทยแลนด์ 4.0, Upload ความคิด พลิกสู่นวัตกรรม, การร่วมเสวนาถอดบทเรียน เปิดมุมคิดพลิกธุรกิจด้วยทรัพย์สินทางปัญญา จากผู้ประกอบการต้นแบบ นอกจากนี้ยังมีการออกบูธแสดงสินค้าด้านซอฟต์แวร์ และดิจิทัลคอนเทนต์ พร้อมคลินิกให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา

ด้าน นายประชา อัศวะธีระ รักษาการ ผู้จัดการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สาขาภูเก็ต กล่าวว่า ทุกวันนี้ได้เปลี่ยนผ่านสู่ทศวรรษที่ 21 ที่มีการแข่งขันด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลที่ทันสมัย การปรับตัวให้เป็น Thailand 4.0 จึงเป็นคำตอบและเป็นทางรอด ซึ่งภูเก็ตเองก็เป็นเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City เป็นแหล่งรวมนักพัฒนา ในลักษณะ Research Center หากมีการต่อยอดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ภายใต้การคุ้มครองจากทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่างๆ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจมากขึ้น