รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำหัวหน้าส่วนราชการ พนักงานธนาคารออมสิน เขตภูเก็ตและพสกนิกรชาวภูเก็ตร่วมกิจกรรมจุดเทียนแสงแห่งรักเพื่อน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม  2560 เวลา 19.19 น. ที่บริเวณหน้าธนาคารออมสิน สาขาภูเก็ต นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในกิจกรรมจุดเทียนแสงแห่งรักเพื่อน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีนางญดาภรณ์ ศรีพัฒน์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขตภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ พนักงานธนาคารออมสิน และพสกนิกรชาวภูเก็ตเข้าร่วม

นางญดาภรณ์ ศรีพัฒน์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขตภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในฐานะที่ธนาคารออมสิน ถือกำเนิดจากสถาบันพระมหากษัตริย์ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โปรดเกล้าฯพระราชทานพระราชบัญญัติ ธนาคารออมสิน ในพ.ศ.2489 ซึ่งเป็นปีแรกที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ และคลังออมสิน ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ธนาคารออมสิน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ด้วยความรักความผูกพันและด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ ทางธนาคารออมสินจึงตั้งเจตจำนงที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ อีกทั้งเป็นการน้อมถวายความอาลัยและความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน ผ่านโครงการ “แสงแห่งรัก” และร่วมกันน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยพร้อมเพรียงกัน

กิจกรรมประกอบด้วยการจุดเทียนเพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพร้อมร้องเพลงแสงแห่งรัก และ นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำผู้ร่วมพิธีกล่าวคำน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ความตอนหนึ่ง ว่า “ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอ ตั้งสัตยาธิษฐาน ถวายสัตย์ปฏิญาณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็น ดั่งเครื่องบูชาเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า จะจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทุกพระองค์ ในพระบรมราชจักรีวงศ์ จนกว่าชีวิต จะหาไม่ข้าพระพุทธเจ้า จะเป็นคนดีมีคุณธรรม จะรู้รักสามัคคี เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์และผืน แผ่นดินไทย จะประพฤติปฏิบัติ ตามรอยพระ ยุคลบาทตามศาสตร์ของพระราชา และตามหลัก ปรัชญา ของเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อสืบสาน พระบรมราชปณิธาน เพื่อนำมาซึ่งความสุขความเจริญ และประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป ขอดวงพระวิญญาณของพระองค์ จงสถิต ณ สรวงสวรรค์และ โปรดอภิบาลคุ้มครอง ปวงชนชาวไทยและประเทศไทย ตราบจิรัฏฐิติกาล” และผู้ร่วมพิธีร่วมยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย 90 วินาที
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่องแต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการแสดงความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่านแต่อย่างใด.