พ่อเมืองภูเก็ต ลงพื้นที่ สำรวจเส้นทางเดินเรือ เชื่อมกลุ่มทะเลอันดามัน สายอ่าวปอ เกาะยาว จ.พังงา และท่าเลน จ.กระบี่ เพิ่มทางเลือกและส่งเสริมการท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2561 เวลา 09.00น. นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายสนิท ศรีวิหค นายถาวรวัฒน์คงแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกองโทอดุลย์ นายอำเภอถลาง นางศิรวี วาเลาะห์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นางบุษยาใจเปี่ยมประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต นายสาคร ปูดำ ผู้แทนเจ้าท่าภูมิภาค สำนักงานจังหวัดภูเก็ต เดินทางลงสำรวจเส้นทางเดินเรือ เชื่อมกลุ่มทะเลอันดามันจากท่าเรืออ่าวปอไปยังท่าเรือ ช่องหลาด ตำบลเกาะยาวใหญ่ จังหวัดพังงา และคลอง ท่าเลน อำเภอเมืองจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่สำรวจเส้นทาง
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเดินทาง ปัจจุบันการเดินทางระหว่างจังหวัดภูเก็ตพังงาและกระบี่ ส่วนใหญ่ใช้การเดินทางทางบก ส่วนทางทะเลยังมีการเดินทางและใช้ประโยชน์น้อย ในอนาคตการให้บริการของสนามบินภูเก็ตค่อนข้างที่จะอิ่มตัว ดังนั้นการสร้างทางเลือกใหม่ในการเดินทาง จากจังหวัดภูเก็ตไปยังกระบี่โดยทางเรือถือเป็นทางเลือกใหม่ ที่ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางรวมทั้งสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ในเกาะแก่ง ต่างๆ ที่มีความสวยงาม อาทิ เกาะยาว ใหญ่ เกาะยาวน้อย ซึ่งใช้เวลาสั้นมากจากท่าเรืออ่าวปอ จังหวัดภูเก็ตเดินทาง ไปจังหวัดกระบี่ใช้เวลาเพียง ประมาณ 80 นาที แต่หากใช้การเดินทางทางบกจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นการเปิดเส้นทาง การเดินทางทางน้ำ เป็นการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว เพิ่มทางเลือกใหม่ ที่หลากหลายให้กับนักท่องเที่ยว และเป็นการลดการ ขยายตัวของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาทางอากาศ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางทางอากาศมาลงที่จังหวัดกระบี่ และเดินทางจากกระบี่โดยทางเรือมายังจังหวัดภูเก็ต ได้ง่ายและสะดวก
สำหรับการพัฒนาเส้นทางทางเรือขณะนี้คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีการหารือที่จะพัฒนาเส้นทางการคมนาคมทางน้ำ โดยเรือโดยสารระหว่างจังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ตได้เสนอรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามเส้นทางการเดินเรือมีหลายเส้นทาง ตัวอย่างเช่น เส้นทางบนสุด ออกจากอ่าวปอ ภูเก็ตเดินทางผ่าน เกาะยาว ใหญ่ เกาะยาวน้อย และผ่านช่องแคบ ไปที่ท่าเลน เป็นเส้นทางที่มีระยะทางสั้นที่สุด และมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับการพัฒนาที่สุดเพราะมีความเหมาะสมไม่ได้รับผลกระทบจากลมมรสุม และจากข้อมูลพบว่าในช่วงที่เกิดภัยพิบัติสึนามิเส้นทางนี้ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีเกาะแก่งกระจายตัวอยู่และเป็นเส้นทางที่สามารถใช้ในการเดินทางเรือได้ตลอดทั้งปี โดยในฤดูฝนก็สามารถเดินทางได้ด้วย
การเดินทางมาสำรวจในครั้งนี้จะเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจากนั้นจะเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือแนวทางในการดำเนินการพร้อมทั้งจัดสรุปส่งข้อมูลให้กับส่วนกลาง จะได้ช่วยผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ให้มีการเชื่อมโยงเส้นทางทางน้ำในพื้นที่ 3 จังหวัดประกอบด้วยจังหวัดภูเก็ตจังหวัดกระบี่และจังหวัดพังงา ดังนั้นแนวทางการพัฒนาจึงต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้ง 3 จังหวัด โดยมีคณะกรรมการควบคุมการเปิดเส้นทางเป็นผู้วินิจฉัยทั้งนี้หากเส้นทางนี้สามารถดำเนินการได้จะช่วยลดปัญหาการจราจรทางบกที่มีความแออัดคับคั่งในปัจจุบันลงได้ ในเบื้องต้นขณะนี้ในส่วนของท่าเรือที่จะรองรับการเดินทางถือว่ามีความพร้อมมาก นอกจากนี้จังหวัดกระบี่และจังหวัดพังงาก็ยินดีและตอบรับที่จะช่วยขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวเป็นอย่างดี





