ตำรวจภูธรภาค 8 ประชุมมอบนโยบายและติดตามการดำเนินงานตามโครงการ “ภาค 8 ปลอดภัย ทุกวัน ทุกวัย สวมหมวกนิรภัย 100%”
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2560 เวลา 09.00 น. ที่อาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและติดตามการดำเนินงานตามโครงการ “ภาค 8 ปลอดภัย ทุกวัน ทุกวัย สวมหมวกนิรภัย 100%” โดยมี นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด หรือ สอจร. ที่ปรึกษา สอจร. ภาคใต้ นาย ไพฑูลย์ ศิลปะวิสุทธิ์ ผู้จัดการอาวุโส บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาภูเก็ต และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท กล่าวว่า ตามที่ตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้ดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ให้สวมหมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อคทุกครั้ง เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์และใช้รถ ใช้ถนน ในโครงการ “ภาค 8 ปลอดภัย ทุกวัน ทุกวัย สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์” โครงการดังกล่าว เริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 โดยได้มีการอบรมวิทยากรภายใต้โครงการ “ครูแม่ไก่” ให้สถานีตำรวจทั้ง 127 สถานีดำเนินการตามแผ่นการ จากนั้นได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจาก 4 ภาคส่วน ได้แก่ รัฐบาล เอกชน ผู้นำศาสนาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การดำเนินงานแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะแรก ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจก่อนดำเนินคดี โดยลงนามความร่วมมือกับส่วนราชการ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ ตามสถานที่ราชการ สถาบันการศึกษา หน่วยงาน และองค์กรต่างๆ จากนั้น ช่วงที่ 2 เป็นระยะของการจับกุมผู้ขับขี่และตักเตือนผู้ซ้อนท้าย ส่วนระยะสุดท้าย ระยะที่ 3 เริ่มวันที่ 1 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการจับกุม 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย เมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยในภาพรวม 7 จังหวัดพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 8 ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ถึงร้อยละ 70
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอความร่วมมือประชาชนทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย สวมหมวกนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของตนเอง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายต่างๆจะดำเนินการรณรงค์และประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ เนื่องจากการเสียชีวิตและพิการจากอุบัติเหตุเป็นปัญหาที่ควบคุมได้ยาก เพราะนอกเหนือจากการบังคับใช้กฎหมายแล้ว จิตสำนึกของผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้แก้ปัญหาดังกล่าวได้



