ภูเก็ตคืบหน้าบ้านลอยน้ำหลังเจ้าหน้าที่ลากเข้าฝั่งเตรียมออกหมายจับ 2 ผู้ต้องหาเชื่อยังหลบหนีอยู่ในไทย.

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ลากบ้านลอยน้ำกลางทะเลมาเก็บไว้ โดยวันนี้ ทัพเรือภาคที่3 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ร่วมกับจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการเคลื่อนย้ายสิ่งก่อสร้าง seasteading การแก้ไขปัญหากรณีการก่อสร้างที่พักอาศัยที่ตรวจพบบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต ระยะประมาณ 14 ไมล์ทะเล ซึ่งอยู่ในเขตต่อเนื่องของประเทศไทย ที่ประเทศไทยมีอำนาจอธิปไตยในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีพลเรือโทสิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือ ภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3, นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเเถลงความสำเร็จในการเคลื่อนย้ายสิ่งก่อสร้าง seasteading ที่ได้ปฏิบัติการไปเมื่อวานนี้

การปฏิบัติการเมื่อวานนี้ ทางทัพเรือภาคที่ 3 ใช้เรือหลวง 3 ลำ คือ เรือหลวงศรีราชาในการอำนวยการ เรือหลวงริ้นในการลากตัวเเท่นวัตถุลอยน้ำ และเรือหลวงมันใน ในการลากตัวบ้านวัตถุลอยน้ำ โดยขณะนี้วัตถุพยานทั้งหมดถูกนำมาพักไว้ที่บริเวณท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ซึ่งสถานีตำรวจภูธรวิชิต จะเข้าทำการตรวจสอบและดูแลวัตถุพยาน ในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับทางผู้ต้องหาเบื้องต้นทาง พล.ต.ต.วิศาล พันธ์มณี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ในช่วงแรก พบว่า อยู่ในพื้นที่เกาะตะรุเตา แต่ขณะนี้สัญญาณ โทรศัพท์ได้ถูกปิดไปแล้ว แต่เชื่อว่ายังคงอาศัยอยู่ในประเทศไทย สำหรับสามีซึ่งเป็นชาวต่างชาติขณะนี้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ทำการเพิกถอนวีซ่า โดยขณะนี้ตำรวจรอให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดแต่งตั้งอัยการเป็นพนักงานสอบสวนร่วมจากนั้นจะดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งคู่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 แต่ในส่วนผู้ต้องหาที่เป็นชาวต่างชาติหากพบตัวในระยะนี้ก็สามารถควบคุมตัวได้เลยในข้อหาการเข้าเมือง เนื่องจากถูกเพิกถอนวีซ่าแล้ว ส่วนหญิงไทยหากพบตัวในขณะที่ยังไม่มีหมายจับก็จะดำเนินการสอบสวนและกันตัวไว้ได้ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ในส่วนวัตถุพยานหลังจากนี้ทาง สถานีตำรวจภูธรวิชิต จะใช้เครนยกวัตถุลอยน้ำขึ้นมาบนฝั่งเพื่อนำมาตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง

ในเรื่องของการขยายผลดำเนินการเครือข่าย seasteading ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ทางทัพเรือ ภาคที่ 3 ได้ฝากย้ำให้ช่วยกันสอดส่องดูเเล หากพบเจอให้เร่งเเจ้งผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการใช้กฎหมายที่มีอยู่ในการควบคุมดูเเลต่อไป เนื่องจากกรณีดังกล่าวถือได้ว่าเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยหรือในโลกก็ว่าได้

ในส่วนของการตรวจสอบบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อสร้างทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จะมีการตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติโรงงานหรือไม่ รวมถึงได้มีการให้ทาง อบต.ไม้ขาว และทางท้องถิ่นตรวจสอบกว่ามีการกระทำผิดตาม พรบ.ขุดและถมดินหรือไม่ ทั้งนี้ทางจังหวัดภูเก็ตจะดำเนินการตรวจสอบทุกอย่างโดยละเอียดอีกครั้ง.