ภูเก็ตซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ทั้งด้านอุปกรณ์และบุคลากร
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัย อาทิ อุทกภัย ดินโคลนถล่ม เป็นต้น เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ทั้งด้านอุปกรณ์และบุคลากร ให้สามารถเผชิญกับเหตุการณ์ภัยที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ ตลอดจนเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด โดยมีนายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายชัชวาลย์ เบญจศิริวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต นายมงคล เต็มรัตน์ รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตัวแทนจากมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม รับมือสาธารณภัยของจังหวัดภูเก็ตว่าปัจจุบันจะเห็นได้ว่าอุทกภัยและดินโคลนถล่มเป็นปัญหาด้านสาธารณภัยที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ตเสมอมา โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายนของทุกปี ส่งผลให้มีฝนตกชุกและติดต่อกันเป็นเวลานาน จนเกิดน้ำป่าไหลบ่ามาตามผิวดินมากกว่าปกติ และน้ำปริมาณมากที่ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ หรือชุมชนที่ไม่มีระบบระบายน้ำที่สมบูรณ์และทำความเสียหายแก่บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเสมอ ซึ่งนับวันสาธารณภัยดังกล่าวจะมีความรุนแรงและความถี่มากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ภัย ทั้งในส่วนของอุปกรณ์และบุคลากร เพื่อเผชิญเหตุที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ตลอดจนเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงสนับสนุนเครื่องจักรกลในการจัดการสาธารณภัยประจำที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาด้านสาธารณภัยและช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชน รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากสาธารณภัยแต่ละประเภท เช่น อัคคีภัยอุทกภัย ภัยแล้ง ภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย ภัยจากแผ่นดินไหวและอาคารถล่ม เป็นต้น เช่น ยานพาหนะและเครื่องจักรที่สำคัญ เช่น รถยนต์บรรทุกเครื่องสูบน้ำระยะไกล รถบรรทุกเครื่องสูบน้ำท่วมขัง พร้อมอุปกรณ์ขนาดท่อส่ง 14 นิ้ว รถยนต์กู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถดับเพลิงชนิดหอน้ำพร้อมบันไดสูง 37 เมตร รถดับเพลิงชนิดหอน้ำบันไดสูง 90 เมตร รถยนต์ต่อต้านวินาศภัย เป็นต้น นับเป็นการสนับสนุนจังหวัดที่เผชิญเหตุให้สามารถจัดการสภาวะวิกฤตได้อย่างรวดเร็วทั่วถึงและฟื้นคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว









Pingback: 2licking