
ภูเก็ตเข้มขอความร่วมมือสถานศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10.00 น. นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน การประชุม ติดตามและเฝ้าระวัง สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยมีนายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต,นายแพทย์กฤษณ์ สกุลแพทย์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์เฉลิมพงษ์ สุคนธผล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต,นายสันติภัทร โคจีจุล ศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต,นายวิญญ์ สิทธิเชนทร์ ท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต,นายสาคร ปู่ดำ นัก วิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต , ผู้แทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต, ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม

โดยที่ประชุมได้มีการติดตาม การเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ,มาตรการการคัดกรองผู้โดยสารของการท่าอากาศยานภูเก็ต,จำนวนผู้โดยสารของการท่าอากาศยานภูเก็ต และการรายงานจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ยังคงตกค้างในจังหวัดภูเก็ต จากนั้นที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา รูปแบบป้ายประชาสัมพันธ์ (ไวนิล) การป้องกันโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยจะได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมดำเนินการ ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์และป้ายประชาสัมพันธ์ดังกล่าวเพื่อเผยแพร่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในทุกพื้นที่ได้รับทราบและปฏิบัติตาม

นายสันติภัทร โคจีจุล ศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการควบคุมป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยการสังเกตนักเรียนนักศึกษา หากพบมีอาการไข้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ลดยาก ปวดศีรษะและลำตัว มีอาการ ไอต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มีน้ำมูก ให้รีบพาไปพบแพทย์ หรือโทรแจ้งสายตรงกรมควบคุมโรค โทร 1422 อย่างไรก็ตาม หากพบผู้มีภาวะเสี่ยงต่อโรคให้ประสานและส่งต่อหน่วยงานด้านสาธารณสุขทันทีและหากมีความจำเป็นต้องปิดโรงเรียนให้อยู่ในดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียน


นายเพิ่มเกียรติ เกษกุล ประธานชมรม โรงเรียนเอกชน ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนในสังกัดจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีนักเรียนในโรงเรียนเอกชนจำนวน 20,000 คน ซึ่งมีมาตรการในการควบคุมเชื้อไวรัสโคโรนา โดยในส่วนของโรงเรียนเอกชนได้มีการแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ในการเฝ้าระวังคือ กลุ่มที่ 1 กลุ่มนักเรียนที่เดินทางมาจากประเทศจีน ได้ทำการขอความร่วมในการคัดแยกและเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น, กลุ่มที่ 2 กลุ่มนักเรียนที่เดินทางมาจาก 14 เมืองในมณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน,กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มพ่อ แม่และผู้ปกครองทำงานใน สาธารณรัฐประชาชนจีน และกลุ่มที่ 4 คือกลุ่มพ่อ แม่และผู้ปกครองทำงานที่มีการประสานกับชาวจีนโดยทั้ง 4 กลุ่มจะมีการขอความร่วมมือ มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดและมีการติดตามอาการของกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาอย่างมีประสิทธิภา
นายสาคร ปู่ดำ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า ท่าเทียบเรือทาง 24 แห่งได้ดำเนินการควบคุมเชื้อไวรัสโคโรนา โดยมีการเพิ่มวงรอบในการทำความสะอาดท่าเทียบเรืออย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเจลล้างมือและน้ำยาล้างมือไว้บริการเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ใช้ล้างมือ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาได้อีกทางหนึ่ง
