ภูเก็ตเครือข่ายชาวเลอันดามันจัดแลกเปลี่ยนปลาแห้งกับข้าวสาร จากกลุ่มชาวนาอีสาน จังหวัดยโสธร ขึ้นอากาศยานกองทัพอากาศ เพื่อแลกเปลี่ยนตามโครงการ “ขนข้าวชาวนาแลกปลาชาวเล” ฝ่าวิกฤตโควิด-19

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563  ที่ ท่าอากาศยานภูเก็ต กองทัพอากาศให้การสนับสนุนอากาศยาน C-130 ทำการขนส่งข้าวสาร จำนวน 9,000 กิโลกรัม จากกลุ่มชาวนาอีสาน จ.ยโสธร เพื่อนำมามอบให้พี่น้องชาวเลในจังหวัดภูเก็ต ขณะที่ชาวเลในจังหวัดภูเก็ตได้นำปลาแห้ง จากเครือข่ายชาวเลอันดามัน จำนวน 1,000 กิโลกรัม ลำเลียงขึ้นอากาศยานมอบต่อให้เครือข่ายชาวนาภาคอีสาน ตามโครงการ “ขนข้าวชาวนาแลกปลาชาวเล ฝ่าวิกฤตโควิด-19” โดยมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในการรับและส่งมอบ, มี พลอากาศโท ตรีพล ว่องไพทูรย์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ, นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา หัวหน้าส่วนราชการ เเละนายไมตรี จงไกรจักร ผู้จัดการมูลนิธิชุมชนไท ผู้ประสานโครงการเข้าร่วม

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตนมีความยินดี ที่ได้รับมอบข้าวสารจากเครือข่ายชาวนาภาคอีสาน จังหวัดยโสธร โดยที่ผ่านมาชาวเล ในชุมชนราไวย์ ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบโรคโควิด 19 เนื่องจากการปิดเมืองและปิดหาด จึงไม่สามารถขายปลาได้ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวและตลาดรองรับ

มูลนิธิชุมชนไท ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ได้เห็นปัญหาร่วมกันของชาวเลราไวย์ ทำให้เกิดโครงการดี ๆ ขึ้น โดยชาวเลได้รวมกลุ่มกันในนาม “เครือข่ายชาวเลอันดามัน” จัดทำปลาแห้ง จำนวน 1,000 กิโลกรัม เน้นปลาพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก เช่น ปลาทูแดง ปลาทูแขก ปลาข้างเหลือง ทำเป็นปลาเค็มตากแห้ง ถนอมอาหารให้สามารถเก็บไว้กินได้นาน

ส่วนเครือข่ายชาวนาภาคอีสาน สมาคมชาวยโสธร ต่างเห็นความเดือดร้อน ของกลุ่มชาวเลอันดามัน จึงประสานส่งมอบข้าวสาร จำนวน 9,000 กิโลกรัม มอบให้แก่เครือข่ายชาวเลอันดามัน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน เป็นสายพานทำให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้อีกครั้ง โดยนำทรัพยากร “มาแลกกัน” ตามหลัก P2P หรือ People to People ซึ่งจะทำให้เราอยู่รอดในภาวะวิกฤต

โอกาสนี้ กองกิจการพลเรือนทหารอากาศ ได้นำถุงยังชีพ จำนวน 300 ชุด จาก บริษัทคิงพาวเวอร์ จำกัด เพื่อนำมามอบให้พี่น้องชาวอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา โดยได้รับความอนุเคราะห์จากทัพเรือภาคที่ 3 เป็นหน่วยในการลำเลียง นอกจากนี้เกษตรชาวจังหวัดพังงายังนำสับปะรดภูงา ผลผลิตทางการเกษตรขึ้นชื่อของจังหวัด จำนวน 3.2 ตัน ฝากขึ้นอากาศยานเพื่อนำไปส่งขายยังจังหวัดอุบลราชธานี อีกด้วย