รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ภูเก็ต มอบนโยบายด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม แก่ตำรวจภูธรภาค 8 เน้นย้ำงานพิสูจน์หลักฐาน-การดูแลความปลอดภัย นทท.
เมื่อวันที่ 5 เมษายน  2560  เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กวี ที่ปรึกษา สบ.10 ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพ็ชร และคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตประชุมมอบนโยบายด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยมีพล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ข้าราชการตำรวจในสังกัด ตั้งแต่ระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด จนถึงผู้กำกับการ ฯ กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และระนอง ร่วมประชุมรับทราบนโยบายดังกล่าว ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

การมอบนโยบาย พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวชื่นชมในผลงานของตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งจากตัวชี้วัดที่ออกมาพบว่าคดีต่างๆ ลดลง สถานภาพอาชญากรรมทั่วๆ ไป ไม่น่าเป็นห่วง ตำรวจสามารถควบคุมได้ และได้เน้นย้ำเรื่องการรักษาสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นความสำคัญอยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐานสู่สำนวนการสอบสวน เมื่อมีคดีเกิดขึ้น ผู้บังคับการ ผู้กำกับการ จะต้องส่งคนที่มีความรู้ลงไปเก็บพยานหลักฐาน และรวมถึงมีความรู้ในการรักษาสถานที่เกิดเหตุ ไว้ให้ผู้เชี่ยวชาญลงไปช่วยกันเก็บพยานหลักฐาน ประเด็นสำคัญ อย่าปล่อยให้พยานหลักฐานที่อยู่ในที่เกิดเหตุหลุดมือไป เพราะพยานหลักฐานบางอย่างเมื่อเลยวันเกิดเหตุไปแล้ว ก็จะย้อนกลับมาเก็บไม่ได้ ตรงส่วนนี้สำคัญที่สุด เพราะเป็น 1 ในองค์ประกอบของการปฏิรูปตำรวจ

กองพิสูจน์หลักฐาน แนวโน้มในอนาคต มีโรงพักก็จะต้องมีกองพิสูจน์หลักฐาน วันนี้กองพิสูจน์หลักฐานเล็กอยู่ แต่ต่อไปต้องขยายให้ใหญ่ขึ้น และต้องมาช่วยโรงพักมากขึ้น นอกจากนั้นกองบัญชาการสอบสวนกลางที่อยู่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกองปราบปราม ตำรวจท่องเที่ยวหรือตม. ต้องมาช่วยกัน ในการเก็บพยานหลักฐานร่วมกัน

นอกจากนี้ในการมมอบนโยบาย รอง ผบ.ตร. ยังได้เน้นย้ำเรื่องการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ทั้งในกลุ่มที่เดินทางมาท่องเที่ยวและในกลุ่มที่เข้ามาทำงาน เข้ามาลงทุนทำธุรกิจอยู่ในประเทศ ที่เราจะต้องให้ความสำคัญ เพราะรายได้หลักในการนำมาพัฒนาประเทศมาจากการท่องเที่ยวเป็นหลัก เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เป็นสิ่งที่ตำรวจต้องรับรู้ ตำรวจนอกจากจะรักษากฎหมายแล้ว จะต้องคิดที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับรัฐบาล ให้รัฐบาลได้มาซึ่งรายได้