รองผู้ว่าฯ ภูเก็ตแจ้งความดำเนินคดี หลังถูกปลอมเฟซบุ๊ก

19105664_1844970762387177_8317332533716872910_n

18950929_1844970812387172_893136195621907816_n

18951076_1844970805720506_2003402983851871146_n

18920567_1844970849053835_4560601368726992189_n

รองผู้ว่าฯ ภูเก็ตแจ้งความดำเนินคดี หลังถูกปลอมเฟซบุ๊ก แอบอ้างขอยืมเงิน 30,000 บาท

เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน  2560 เวลา 17.00 น.  นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้ นายกฤษฎิ์ ดำดี นัก วิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ อายุ 29 ปี เป็นผู้มีอำนาจเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท. ราชันย์ พรรณไวย สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้เอาผิดต่อบุคคลที่ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
เนื่องจากมีการนำรูปภาพของนายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ไปใส่เป็นรูปประจำตัว ทำให้บุคคลอื่นเกิดความเข้าใจผิดว่า เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็น ของ นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และมีการส่งข้อความพูดคุยกับบุคคลอื่นในลักษณะให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งยังมีการพูดคุยในลักษณะของการแสวงหาผู้ประโยชน์จากคู่สนทนา ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้รองผู้ว่าฯ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้

นายกฤษฎิ์ ดำดี นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ กล่าวว่า การเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้แอบอ้างดังกล่าว ในข้อหาความผิดตามกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ ยอมความตามกฎหมายมอบคดีให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวน นำชี้ให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจเข้าจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ถ้อยคำชี้แจ้งข้อเท็จจริง รายละเอียดต่าง ๆ ยื่นเรื่อง ตรวจสอบ คัดถ่าย รับส่งเอกสารหรือพยานหลักฐานต่างๆ ตลอดจนให้มีอำนาจดำเนินการใด ๆ อันเกี่ยวกับการร้องทุกข์แทนรองผู้ว่าฯ จนเสร็จการ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าวจนถึงที่สุด

อย่างไรก็ตามนายกฤษฎิ์ ดำดี นัก วิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากผู้ใช้ชื่อเฟสบุ๊คดังกล่าวจะนำภาพของรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตมาเป็นภาพประจำตัวแล้ว ยังได้มีการส่งข้อความไปหาข้าราชการชาย สังกัดกระทรวงมหาดไทยที่กรุงเทพมหานคร เพื่อขอยืมเงินจำนวน 20,000-30,000 บาท โดยแจ้งว่าขอยืมเงินเป็นค่าหมูย่าง พร้อมส่งหมายเลขบัญชีธนาคารและเบอร์โทรศัพท์มาให้ด้วย แต่ข้าราชการคนดังกล่าวยังไม่ได้โอนเงินให้ และมีการสอบถามมายังรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ว่า ต้องการใช้เงินจริงหรือไม่ ซึ่งได้คำตอบว่า ไม่ต้องโอนเงินให้ จึงยังไม่มีการโอนเงินเกิดขึ้น
โดยเจ้าของเฟสบุ๊คดังกล่าว ยังได้มีการสนทนาในกล่องข้อความกับบุคคลอื่นในลักษณะที่ทำให้เชื่อได้ว่าเป็นรองผู้ว่าฯภูเก็ต และมีการพูดคุยในลักษณะแสวงหาผลประโยชน์จากคู่สนทนา จนทำให้คู่สนทนาหลงเชื่อว่า เป็นรอง ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้รองผู้ว่าฯ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังได้ ทั้งนี้เฟสบุ๊คดังกล่าวได้มีการขอเป็นเพื่อนกับข้าราชการสื่อมวลชน เป็นจำนวนมาก

เบื้องต้น พ.ต.ท. ราชันย์ พรรณไวย สว.สอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งความและจะพยายามติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป

 

Comments are closed.