
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ติดตามสถานการณ์การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งของจังหวัดภูเก็ต พร้อมระบุรัฐบาลมีนโยบายวางโครงข่ายระบบส่งท่อน้ำเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำบริโภคอุปโภคอย่างเพียงพอ


เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) พร้อมด้วย นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์, นางสาวอรสา โพธิ์ทอง, นายสมเกียรติ กิจเจริญและ นายสนธยา อินทยุง คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อประชุมพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์,นายวงศกร นุ่นชูคันธ์,นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ พร้อมรายงาน สรุปสถานการณ์ภัยแล้งและการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งปี 2563 ของจังหวัดภูเก็ต

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการต่างๆโดยเฉพาะการเร่งรัดให้การเบิกจ่ายงบประมาณ ในโครงการต่างๆให้เป็นไปตามกำหนดระยะเวลาแผนงานแผนโครงการสำหรับการเดินทางลงพื้นที่พบว่าปัญหาการขาดแคลนน้ำของจังหวัดภูเก็ตส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุการลดแรงดันน้ำในช่วงฤดูแล้งทำให้ในพื้นที่ขาดแคลนน้ำดังนั้นในส่วนของหน่วยงานราชการจะร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาคสาขาภูเก็ตดำเนินการจัดทำโครงการวางท่อเพื่อให้การส่งน้ำให้มีความครอบคลุมและทั่วถึงเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวรวมทั้งการหาแหล่งน้ำต้นทุนมาใช้ในการผลิตน้ำประปา เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวอย่างไรก็ตามอยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวดังนั้นการเกิดข่าวลือข่าวลวง เช่น ข่าวการขาดแคลนน้ำเมื่อมีการนำเสนอในสื่อโซเชียลมีเดียก็จะทำให้สถานการณ์ขาดแคลนน้ำในพื้นที่แย่ลงเพราะประชาชนจะแห่กันกักเก็บน้ำ ทำให้น้ำในระบบลดลงไปอีก นอกจากนี้ข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยภาพรวมของจังหวัดภูเก็ต

สำหรับปัญหาของการวางท่อเพื่อส่งน้ำนั้นได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งการประปาส่วนภูมิภาคร่วมกับแขวงทางหลวงภูเก็ต,แขวงทางหลวงชนบทร่วมกันในการกำหนดจุดที่จะมีการวางท่อเพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างราบรื่นและบรรลุตามวัตถุประสงค์ โดยรัฐบาลมีนโยบายที่จะวางโครงข่ายการส่งระบบท่อน้ำประปารวมทั้งในระดับพื้นที่ระดับภาคและระดับประเทศเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งให้แก่พี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวรายงานสภาพปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ปริมาณการใช้น้ำทั้งหมด 80 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี(ข้อมูลปี 2562) โดยอยู่ในเขตของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาภูเก็ตและการประปาเทศบาลนครภูเก็ตประมาณ 48 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี คิดเป็น 60% ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำของโครงการชลประทาน 3 แห่ง,ปริมาณฝนเติมอ่าง,สูบน้ำเติมอ่างขุมเหมืองสาธารณะเอกชนบางแห่ง และอยู่นอกเขตของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาภูเก็ตและการประปาเทศบาลนครภูเก็ตประมาณ 32 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีคิดเป็น 40 %

สำหรับปัญหาและอุปสรรคของการขาดแคลนน้ำสาเหตุเกิดจากแนวโน้มผู้ใช้น้ำสูงขึ้นจากอัตราเพิ่มขึ้นของประชาชนและนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 12 ต่อปี โดยคาดการณ์ว่าในปี 2575 ปริมาณความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตจะสูงขึ้นเป็น 112 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
ในส่วนของการขาดแคลนน้ำพบว่า ในเขตพื้นที่ให้บริการประปาส่วนภูมิภาคบางฤดูกาล ปริมาณน้ำต้นทุนโดยเฉพาะในอ่าง เก็บน้ำของโครงการชลประทานมีความขาดแคลนไม่เพียงพอ และในพื้นที่นอกเขตให้บริการของการประปาส่วนภูมิภาคอาจมีปัญหาเรื่องคุณภาพน้ำไม่ดีและปริมาณน้ำขาดแคลนในฤดูแล้ง
ดังนั้นจังหวัดภูเก็ตได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความมั่นคงและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมทั้งขยายเขตให้บริการน้ำประปาที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมทั้งเกาะภูเก็ตจังหวัดภูเก็ตจึงขอเสนอโครงการ 9 โครงการ ดังนี้ -แผนระยะสั้นจำนวน 5 โครงการได้แก่โครงการเพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ งบประมาณ 120 ล้านบาท , โครงการระบบสูบบ้านโคกโตนด-อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ, โครงการบำบัดน้ำเสียมาผลิตเป็นน้ำประปา, โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ และโครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนจังหวัดภูเก็ต -แผนงานระยะกลาง มีจำนวน 2 โครงการคือโครงการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลและโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาพังงา-ภูเก็ต และแผนงานระยะยาวมีจำนวน 2 โครงการคือโครงการพัฒนาแหล่งน้ำใต้ดินและโครงการพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำอ่าวภูเก็ต ทั้งนี้หากทั้ง 9 โครงการประสบความสำเร็จจะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแน่นอน

นายไกรสร มะหะหมัด ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขา ภูเก็ต กล่าวว่า การประปาส่วนภูมิภาคสาขาภูเก็ตให้บริการ ผู้ใช้น้ำ 65,866 ราย โดยมีกำลังการผลิตรวม 102,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ดังนี้ สถานีผลิตน้ำบางวาด 57,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันสถานีผลิตน้ำบางโจ 31,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวันสถานีผลิตน้ำคลองกระทะ 12,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันและสถานีผลิตน้ำพุจำปา 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทั้งนี้ในช่วงฤดูแล้งประชาชนในพื้นที่ตำบลรัษฎาและตำบลเกาะแก้วจะเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ จึงได้กำหนดแผนการช่วยเหลือประชาชนตำบลรัษฎาและตำบลเกาะแก้วร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานต่างๆ อาทิ กองทัพภาคที่ 4 เทศบาลรัษฎา, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีการระดมรถบรรทุกน้ำมาบรรทุกน้ำ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนบรรเทาความเดือดร้อน แจกจ่ายน้ำเฉลี่ยวันละ 200,000 ลิตร ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2563
นายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา กล่าวว่า อยากจะขอให้ทางรัฐบาลช่วยเหลืออนุมัติโครงการต่างๆเพื่อมาดำเนินการแก้ปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนเพราะทุกปีที่ผ่านมาการดำเนินการแก้ไขปัญหาคือการนำรถบรรทุกน้ำมันทุกน้ำเพื่อแจกจ่ายให้แก่พี่น้องประชาชน


