รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ชื่นชมทีมงานที่สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงมอบนโยบายเป็นต้นแบบเมืองท่องเที่ยว เตรียมพร้อมเปิดเมืองอย่างปลอดภัย

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2563  ที่ ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายเเพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข, นายแพทย์บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย, นายเรวัต อารีรอบ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เเละคณะ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 มอบนโยบายเตรียมความพร้อมเปิดเมืองภูเก็ตอย่างปลอดภัยได้มาตรฐาน โดยมีนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ประกอบกิจการในจังหวัดภูเก็ตร่วมให้การต้อนรับ

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตกล่าวรายงานว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นมา ได้เกิดการระบาดของโรค COVID 19 จากเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้แพร่ระบาดไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ที่มีนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกเกือบ 2 ล้านคน ในช่วงเวลาดังกล่าว กว่า 200 สัญชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ทำให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือทุ่มเทสรรพกำลัง รับมือการแพร่ระบาดของโรค COVID 19 โดยเริ่มดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารที่บินตรงจากเมืองอู่ฮั่น ตั้งแต่ วันที่ 5 มกราคม 2563 เป็นต้นมา และได้ดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคต่างๆ จากเบาไปหาหนัก เพิ่มความเข้มงวดเพื่อให้ประชาชนและภาคธุรกิจได้ปรับตัวและได้รับผลกระทบในชีวิตให้น้อยที่สุด ในขณะเดียวกันผู้รับผิดชอบในภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ก็ต้องทำงานอย่างเข้มแข็ง ตามหลักวิชาการควบคู่กันไป ทั้งนี้ได้ดำเนินการ Lock Down ปิดเส้นทางบกและทางน้ำสำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าและออกจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ 30 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา และได้ขยายการปิดรอยต่อ ห้ามเดินทางระหว่างตำบลรวม 17 ตำบลในจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ถึง วันที่ 30 เมษายน 2563 สำหรับช่องทางทางอากาศ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ระงับการดำเนินการท่าอากาศยานภูเก็ตตั้งแต่ วันที่ 10 เมษายน 2563 ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์โรคโควิด 19 ของจังหวัดภูเก็ต มีจำนวนผู้ติดเชื้อค่อยๆลดลงจนอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 13 ดังนั้นเพื่อเข้าสู่ระยะเปลี่ยนผ่านในการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ได้มีการประชุมเมื่อวานนี้ โดยเห็นชอบให้เสนอสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เปิดทำการท่าอากาศยานภูเก็ต ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป สำหรับช่องทางบกและทางน้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอ ศบค.มท. พิจารณา ทั้งนี้ เพื่อเข้าสู่ระยะเปลี่ยนผ่านในการผ่อนคลายมาตรการ ให้สามารถเปิดเมืองภูเก็ตได้อย่างปลอดภัยได้มาตรฐาน สร้างความเชื่อมั่นแก่สังคมชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ภายใต้วิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) อย่างราบรื่น พัฒนาสู่ความเจริญก้าวหน้าของภูเก็ตอย่างมั่นคง และยั่งยืน

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวให้นโยบายว่า กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งด้านการป้องกันและควบคุมโรค เพื่อให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดต้นแบบทั้งในระยะที่มีโควิด 19 ระบาดและในระยะยาว เนื่องจากภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีสถิตินักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในระดับภูมิภาค มีอัตราการป่วยเป็นอันดับต้นของประเทศ แต่ด้วยทีมงานที่มีสมรรถนะในการบริหารจัดการ ทั้งการควบคุมป้องกันโรคด้วยการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก การดูแลแยกกักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ในโรงแรมหรือสถานที่ที่ปรับเป็นสถานที่แยกดูแลผู้ป่วย ทำให้สามารถจัดการสถานการณ์ได้โดยเร็ว สามารถนำบทเรียนมาวางระบบในระยะยาวให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความมั่นคงในการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ยังมีการยกระดับมาตรการการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ณ ด่านทางเข้าออกของจังหวัด ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ โดยด่านทางบก ที่ด่านท่าฉัตรไชย มีระบบคัดกรอง Phuket Smart Check Point ให้ผู้เดินทางลงทะเบียนก่อนเข้าภูเก็ตล่วงหน้าทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รวมทั้งมีระบบตรวจจับใบหน้าผู้ป่วยเฝ้าระวัง ณ จุดตรวจ เชื่อมกับฐานข้อมูลสาธารณสุข จะแจ้งเตือนเมื่อเดินทางออกนอกจังหวัด, ด่านทางอากาศ มีระบบประสานข้อมูลกับประเทศต้นทางที่อาจมีโรคติดต่อเพื่อเฝ้าระวัง ระบบคัดกรองตั้งแต่ต้นทาง และมีระบบติดตามตัวโดยให้ผู้เดินทางลงทะเบียนข้อมูลการเดินทางบนแอปพลิเคชัน AOT Airport และด่านทางน้ำ พัฒนาให้มีมาตรฐานป้องกันการนำเชื้อมาแพร่ในประเทศ โดยเน้นเฝ้าระวังโรคประเทศต้นทางและคัดกรองผู้ผ่านด่านทุกทางเข้าหลัก จัดพื้นที่เว้นระยะห่างในท่าเทียบเรือและบนเรือ รวมทั้งประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในการผ่อนปรนเปิดกิจการอย่างเข้มงวด ได้แก่ ตลาดสด ตลาดชุมชน และกิจการรองรับการท่องเที่ยว ได้แก่ ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก โดยประเมินกิจการ/สถานประกอบการด้วยแอปพลิเคชัน Thai stop COVID-19 ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันโควิด 19 และปักหมุดพิกัดสถานประกอบการไว้ในแพลตฟอร์มนี้ เพื่อผู้บริโภคสามารถตรวจสอบ เลือกการใช้บริการ ให้จัดทำแผนพัฒนาความเข้มแข็งในการเป็นเมืองต้นแบบท่องเที่ยวเชิงความปลอดภัยและสุขภาพ โดยเฉพาะพิจารณาให้มีโรงพยาบาลดูแลรักษาโรคติดต่อและภัยนักท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ที่จะอำนวยความปลอดภัยได้ทันเวลา พร้อมทั้งให้การดูแลขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และภาคส่วนต่างๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันควบคุมโรค

นอกจากนี้ยังมีการมอบประกาศรับรองกิจการผ่อนปรน 6 ประเภท 20 กิจการ ในจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านการรับรองจากกรมอนามัย ให้แก่เจ้าของกิจการเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวหลังการเปิดเมือง โดยคีย์เวิดสำคัญในวันนี้ ดร.สาธิต กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 “วันนี้เราพิสูจน์แล้วว่าประเทศไทย เป็นมหาอำนาจด้านสาธารณสุขของโลก” ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ เพราะคนไทยต่างให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนโดยเฉพาะ อสม.ที่ทำงานอย่างเสียสละ ซึ่งหลังจากนี้ขอให้ทุกคนยึดหลัก NEW NORMAL การ์ดต้องไม่ตก

ในช่วงบ่ายยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานประกอบการและกิจการผ่อนปรน ได้แก่ ร้านตัดผม Hello studio salon ที่เปิดให้บริการลูกค้าโดยปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดอีกด้วย