จังหวัดภูเก็ต ประชุมรับฟังและร่วมบูรณาการ ความร่วมมือกับเครือข่ายจิตอาสา Go-Eco Phuket
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม poc ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสุริยัน เดชรักษา ผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์กลุ่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน เป็นประธานในการประชุมรับฟังและบูรณาการความร่วมมือกับเครือข่ายจิตอาสา Go- Eco Phuket โดยมี นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่9 นายปิยะวัฒน์ หลงขาว สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค5 สาขาภูเก็ต นายอิทธิ ชัตท์ เลขาธิการ Go-Eco Phuket , ชมรมอนุรักษ์, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสุริยัน เดชรักษา ผู้อำนวยการกลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์กลุ่มภาคใต้ฝั่งอันดามัน กล่าวว่า ในส่วนของภาคส่วนอันดามัน จังหวัดภูเก็ตได้ติดอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ในเรื่องของการท่องเที่ยวซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งหมดจำนวน 436,000 ล้านคน เป็นผลทำให้การท่องเที่ยวในภาคส่วนอันดามันมีอัตรานักท่องเที่ยวที่สูงมาก ทำให้มีศักยภาพในการท่องเที่ยวที่ดี เพราะเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการทางด้านการท่องเที่ยวและการเกษตรในเรื่องของยางพารา ปาล์มน้ำมัน ประมง ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการท่องเที่ยวเนื่องจากไม่ได้สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆขึ้น ล้วนแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากธรรมชาติ อาทิ ภูเขา น้ำตก ทะเล
นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่9 กล่าวว่า ในการดำน้ำหากมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับสิ่งแวดล้อมหรือเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สามารถบันทึกภาพวิดีโอในขณะเกิดเหตุนำมาเป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย
1.ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ๒๕๕๓ ข้อ ๑๒ อนุ ๙ ว่าด้วย การเก็บหรือทำลายปะการัง ซากปะการัง หรือหินปะการัง กัลปังหา หรือหญ้าทะเล หรือกระทำใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายหรือมีผลกระทบทำให้ปะการัง ซากปะการัง หรือหินปะการัง กัลปังหา หรือหญ้าทะเล ถูกทำลายหรือเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- คำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ ๔๔๕/๒๕๕๙ เรื่อง มาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงือนไขในการระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรปะการัง ตามข้อ ๗ ห้ามการเดินเหยียบย่ำปะการัง ข้อ ๘ ห้ามเก็บหรือทำลายปะการัง ข้อ ๙ บุคคล หรือผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวดำน้ำตื้นจะต้องไม่กระทำใดๆ อันเป็นการก่อให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง ข้อ ๑๐ ผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวดำน้ำลึก ต้องได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวจากสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และจะต้องปฏิบัติตามเงือนไขและหลักของสถาบันการเรียนการสอนดำน้ำสากล ข้อ ๑๑ ผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามความในมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘
นายอิทธิพัทธ์ ชัตท์ เลขาธิการ Go-Eco Phuket กล่าวว่า เนื่องด้วยจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวและมีอัตลักษณ์เป็นของตนเอง จึงเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวทั่วไปที่อยากมาชมความงามของเกาะภูเก็ตซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติมากมายที่ควรดำรงรักษาไว้ แต่ในปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติค่อยๆ เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากขาดความระมัดระวัง ส่งผลให้ระบบนิเวศเสียหาย โดยเฉพาะทางทะเลที่เกิดจากนักดำน้ำ ที่เหยียบย่ำปะการัง
นายอิทธิพัทธ์ ชิตท์ เลขาธิการ Go-Eco Phuket กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความห่วงใยทรัพยากรใต้ทะเลที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงซึ่งเกิดจากการเข้าใช้พื้นที่ดำน้ำลึก และดำผิวน้ำโดยขาดความระมัดระวังทำให้แหล่งธรรมชาติทางทะเลเสียหาย โดยเฉพาะปะการังที่ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก จากสถานการณ์ปะการังโดนทำลายทำให้ปลาสวยงามย้ายถิ่นฐาน ซึ่งสาเหตุเกิดจากกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ของมนุษย์ที่ไม่ช่วยกันรักษาทรัพยากรใต้ทะเล ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลจึงขอความร่วมมือนักดำน้ำและนักท่องเที่ยว รวมถึงประชาชนให้ช่วยกันอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้คงอยู่ เนื่องจาก ธุรกิจการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้สำคัญของจังหวัดภูเก็ต











Pingback: vagragenericaar.org
Pingback: droga5.net
Pingback: hydroxychloroquine in lupus
Pingback: 3unwashed