สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีภูเก็ต จัด “วิ่งด้วยใจไปด้วยกัน 113 ปี สตรีภูเก็ต” หารายได้สนับสนุนการศึกษาให้กับโรงเรียนสตรีภูเก็ตและโรงเรียนใน 3 อำเภอ 3 โรงเรียนของจังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2565 สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีภูเก็ต ร่วมกับ นักวิ่ง และผู้ที่รักในการวิ่ง จำนวน 4,800 คน ได้รวมตัวกันเพื่อเข้าแข่งขันวิ่งในรายการ”วิ่งด้วยใจไปด้วยกัน 113 ปี สตรีภูเก็ต SPK RUN 2022”  ซึ่งสมาคมศิษย์เก่าสตรีภูเก็ต ร่วมกับคณะกรรมการสมาคมฯ โรงเรียนสตรีภูเก็ต สมาคมครูและผู้ปกครองโรงเรียนสตรีภูเก็ต ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันจัดขึ้น เพื่อหารายได้สนับสนุนด้านการศึกษาให้กับน้องโรงเรียนสตรีภูเก็ต และอีก 3 โรงเรียนใน 3 อำเภอ ของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายปัญญา หัตถิ ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีภูเก็ต และนางสมใจ คงคุณากร นายกสมาคมศิษย์เก่าสตรีภูเก็ต ร่วมกันปล่อยตัวนักวิ่ง

นางสมใจ คงคุณากร นายกสมาคมศิษย์เก่าสตรีภูเก็ต กล่าวว่า เพื่อสนองนโยบายของนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ที่ประสงค์ให้นักเรียนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ทางสมาคมฯ เห็นความสำคัญในเรื่องนี้จึงถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่โรงเรียนพี่ร่วมใจกันเพื่อโรงเรียนน้อง ที่ยังขาดแคลนปัจจัยต่าง ๆ ในการเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนท่าฉัตรไชย ซึ่งเป็นโรงเรียนหน้าด่านที่ต้องการส่งเสริมสนับสนุนในการเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 รวมถึงรณรงค์ให้ทุกภาคส่วน ครู นัดเรียน และประชาชนร่วมแรงร่วมใจในการออกกำลังกาย ด้วยการเดิน วิ่ง เพื่อสุขภาพ ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันให้มากขึ้นและต่อเนื่อง

สำหรับ โรงเรียน 3 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนแหลมพันวา อำเภอเมืองภูเก็ต,โรงเรียนท่าฉัตรไชย อำเภอถลาง และโรงเรียนบ้านบางทองอำเภอกะทู้

คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้กำชับและเน้นย้ำถึงความปลอดภัยในสถานศึกษาทันที หลังเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู โดยได้สั่งการให้ทุกโรงเรียนสอดส่องดูแลสำหรับบุคคลที่จะเข้ามาในโรงเรียนเป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่สิ่งที่สำคัญคือพ่อแม่ ต้องมอบความรัก ดูแลเอาใจใส่ลูก เพราะไม่ได้ต้องการสิ่งอื่นใดนอกจากความเชื่อใจจากพ่อแม่ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ที่สูญเสีย และสิ่งที่จะเยียวยาจิตใจลูกได้คือพ่อแม่เท่านั้น จึงคิดว่าหากลูกทำผิด หรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ควรจัดอบรมพ่อแม่ในรูปแบบค่าย ซึ่งตนเองเคยจัดแบบนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ประสบความสำเร็จถึงร้อยละ 80 %