
จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยัน โรคโควิด-19 จำนวน 227 ราย รักษาหายกลับบ้านได้ 223 ราย เสียชีวิต 3 ราย จำหน่าย 1 ราย
วันที่ 18 กรกฎาคม 2563คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ขอแจ้งให้ทราบว่า ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยัน โรคโควิด-19 จำนวน 227 ราย รักษาหายกลับบ้านได้ 223 ราย เสียชีวิต 3 ราย จำหน่าย 1 ราย
จำนวนผู้ได้รับการตรวจหาเชื้อ ทางห้องปฏิบัติการทั้งหมด 14,237 ราย พบเชื้อ 227 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.59 แบ่งเป็น ผู้มีอาการเข้าเกณฑ์ เฝ้าระวังสะสม 7,761 ราย พบเชื้อ 189 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.44 อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ ทางห้องปฏิบัติการ จำนวน 11 ราย ( รับไว้ในโรงพยาบาล 7 ราย) กลุ่มผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด 556 ราย ไม่พบเชื้อ556 ราย ตรวจหาเชื้อจากการ คัดกรองเชิงรุก 4,035 ราย พบเชื้อ 38 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.94 จากการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง 1,734 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ
จังหวัดภูเก็ตให้การดูแลประชาชนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทุกคนโดยให้เข้าพักในสถานที่กักตัวที่จังหวัดจัดเตรียมไว้ เป็นเวลา 14 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 มีคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศโดยผ่านช่องทางท่าเรือจังหวัดภูเก็ต ได้รับการดูแลกักกันตัวให้เข้าพักใน Local Quarantine จำนวน 216 ราย จำหน่าย 100 ราย คงเหลือ 116 ราย ( นอร์เวย์ 18 สหรัฐอเมริกา 1 อินโดนีเซีย 14 เกาหลีใต้ 12 โรมาเนีย 14 อาร์เจนติน่า 13 สิงคโปร์ 41 อินเดีย 3 ) ผลการตรวจ คัดกรองสุขภาพ 159 ราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ
1 กรกฎาคม 2563 ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 โรงเรียนทุกสังกัดเปิดเทอม กลุ่มกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง กลับมาเปิดบริการได้ปกติภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ เปิดได้ถึง 4 ทุ่ม ร้านสะดวกซื้อสามารถเปิดได้ 24 ชั่วโมง ส่วนสถานบริการ ผับ บาร์ และคาราโอเกะ เปิดบริการได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. ให้ยืน-นั่งเว้นระยะ 1 เมตร ระยะโต๊ะห่างกันมากกว่า 2 เมตร มีระบบหมุนเวียนอากาศดี และพนักงานสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา รวมทั้งสถานอาบอบนวด สามารถเปิดให้บริการได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการ อย่างเคร่งครัด เช่น สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา เว้นขณะอาบน้ำ โดยทุกกิจการที่ได้รับอนุญาตให้เปิด ผู้ใช้บริการต้องลงทะเบียนเข้าออกด้วยแอพพลิเคชั่น ไทยชนะ อย่างเคร่งครัด
เจ้าหน้าที่มีการติดตามประเมินผลอย่างเข้มงวด และมีบทลงโทษสำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข และอนุญาตให้บุคคล 6 กลุ่มเดินทางเข้าประเทศไทย เช่น กลุ่มนักธุรกิจ และคู่สมรสของผู้มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย มีการวางแผนเตรียมเปิดการท่องเที่ยวอนุญาตให้ 5 ประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยได้ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง ประมาณเดือนสิงหาคม 2563 โดยมีการกำหนดมาตรการ 4T เพื่อรองรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ ประกอบด้วย Target (กำหนดกลุ่มผู้เดินทางเพื่อลดความเสี่ยง) Testing (การตรวจ คัดกรองโรคก่อนเดินทาง) Tracing (การใช้แอพลิเคชั่น เฝ้าระวังติดตามกลุ่มผู้เดินทาง) Treatment (การเตรียมความพร้อมการรักษาโรคที่ได้มาตรฐาน
สาธารณสุขเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดบริการตามมาตรการผ่อนคลาย เน้นย้ำประชาชนให้ความสำคัญการใช้ชีวิตแบบ new normal ไม่ตื่นตระหนก และต้องไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ไว้ล้างมือ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และรัฐบาลประกาศยังคงใช้ พรก.ฉุกเฉินต่อไปอีกจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563
