สบทช.6 แจง ปะการังได้รับการคุ้มครองความเสียหายหลัง พรบ.

17457738_1813959752154945_8438122192216525723_n

สบทช.6 แจง ปะการังบริเวณเกาะราชาใหญ่ แหลมพันวา และเกาะไม้ท่อน จ. ภูเก็ต ได้รับการคุ้มครองความเสียหายหลัง พรบ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 บังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม

นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 เปิดเผยในโครงการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพบสื่อมวลชน วันนี้ (23 มี.ค. 60) ว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้รับการจัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2545 เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ท.ส.) ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่หลักในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู คุ้มครอง ป้องกัน ตลอดจนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ทั้งนี้ในวันที่ 26 มีนาคม 2558 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 132 ตอนที่ 21 ก ซึ่งขอบเขตการบังคับใช้กฎหมายครอบคลุมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทั้งระบบนิเวศ อาณาเขต 200 ไมล์ทะเล สอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลระหว่างประเทศพื้นที่ 202 ล้านไร่ มีสาระสำคัญแบ่งออกเป็น 5 หมวด คือ หมวดที่ 1 ว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ หมวด 2 ว่าด้วยชุมชนชายฝั่ง หมวด 3 ว่าด้วยการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หมวด 4 ว่าด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ และหมวด 5 ว่าด้วยบทกำหนดโทษ
รวมถึงยังมีการออกมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรปะการัง บริเวณ 7 พื้นที่ ได้แก่ เกาะมันใน จ. ระยอง / เกาะทะลุ จ. ประจวบคีรีขันธ์/ เกาะเหลี่ยม จ. ประจวบคีรีขันธ์ / เกาะไข่ จ. ชุมพร / เกาะราชาใหญ่ จ. ภูเก็ต / แหลมพันวา จ.ภูเก็ต และเกาะไม้ท่อน จ. ภูเก็ต

นายวัชรินทร์ กล่าวในตอนหนึ่งถึงวัตถุประสงค์หลักของ พระราชบัญญัติฯ ที่ประชาชนจะได้รับว่า จะส่งผลดีต่อความเป็นอยู่ทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ ประชาชนหรือชุมชนชายฝั่งได้รับการช่วยเหลือ สนับสนุนจากหน่วยงานกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทั้งระบบตั้งแต่บริเวณที่ดินชายฝั่ง ป่าชายเลน ป่าชายหาด ชายฝั่งลงไปจนถึงทะเลจรดเขตเศรษฐกิจจำเพาะได้รับการคุ้มครองและบริหารจัดการทั้งระบบ

 

Comments are closed.