สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะ ลงพื้นที่พบปะประชาชน ให้คำปรึกษาในประเด็นที่มีปัญหา พร้อมสนับสนุนขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่เข้าร่วมโครงการไทยนิยมยั่งยืน ในโครงการสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชนตามวิถีไทยนิยม ยั่งยืน จังหวัดภูเก็ต
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2561 เวลา 09.30 น. ที่หอประชุมระดมพลโรงเรียนเมืองถลาง ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลางจังหวัดภูเก็ต พลเรือเอกชุมนุม อาจวงษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และคณะ ลงพื้นที่พบปะประชาชนอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ในโครงการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน ตามวิถีไทยนิยม ยั่งยืน จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวต้อนรับและสรุปผลการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว และ นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช ปลัดจังหวัดภูเก็ต , นายกองโท อดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง, และ หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมให้การต้อนรับ โดยมีคณะวิทยากรถ่ายทอดโครงการไทยนิยมยั่งยืน ระดับจังหวัดภูเก็ต (ครู ก) เป็นคณะวิทยากรถ่ายทอดนโยบายสู่ระดับพื้นที่ และมี หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ทหาร ตำรวจ ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่อำเภอถลาง จำนวนมาก เข้าร่วมรับฟังแนวนโยบายของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามนโยบายการขับเคลื่อนตามโครงการสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน ตามวิถีไทยนิยม ยั่งยืน
พลเรือเอก ชุมนุม อาจวงษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวภายหลังจากการพบปะพี่น้องประชาชน ว่า บรรยากาศโดยรวมของการจัดโครงการ สนช.พบประชาชนตามวิถีไทยนิยม ยั่งยืน จังหวัดภูเก็ต ในวันนี้ถือว่าดีมาก ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดีและทางจังหวัดภูเก็ต ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังเพื่อจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ร่วมกัน และเข้าใจว่าเป้าประสงค์ที่แท้จริงของโครงการคืออะไร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเป็นกันเองมาก ผู้ที่มาร่วมประชุมทุกคนมีความสุขและมีความยินดีที่ได้ร่วมโครงการนี้
สำหรับปัญหาที่ประชาชนได้ร่วมกันสะท้อนส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาพื้นฐาน สิ่งสำคัญคือปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาต่อเนื่องมาเป็นเวลานานและไม่สามารถที่จะแก้ไขให้จบสิ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งการพัฒนาประเทศนั้นหากเรายังแก้ปัญหาเดิมไม่ได้ ก็จะเป็นตัวถ่วงทำให้การพัฒนาประเทศเป็นไปอย่างล่าช้าไม่สามารถที่จะไปแข่งขันกับประเทศอื่นได้ ในการพัฒนาประเทศจุดสำคัญในการจัดแก้ไขตรงนี้คือ การต้องมีฐานข้อมูลซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามจะดำเนินการในเรื่องของการทำ Big Data คือฐานข้อมูลใหญ่ของประเทศ ซึ่งจะมีฐานข้อมูลการแก้ปัญหาหรือปัญหาต่างๆ ที่จะเป็นในระดับพื้นที่อย่างแท้จริง และพยายามแก้ปัญหาให้หมดไปอย่างแท้จริง เพื่อจะทำให้การพัฒนามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ในส่วนบริบทของภูเก็ต ปัญหาจริงๆลึกๆ ที่จะเห็นก็คือภูเก็ตมีความเจริญและมีการพัฒนาไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องจำนวนคนที่เข้ามาอยู่ในภูเก็ตมีมากเกินไปกว่าที่ผังเมือง หรือที่เรียกว่าประสิทธิภาพในการรองรับคนเมือง ว่าควรจะมีประชาชนเท่าไหร่ ซึ่งขณะนี้ภูเก็ต มีจำนวนมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น เช่นเดียวกับในเรื่องการท่องเที่ยว ปกติจะต้องมีกระบวนการประเมินประสิทธิภาพในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งถ้าเกินจะต้องหยุดการเติบโตเสียก่อน ถ้าหากไม่มีตัวชี้วัดนี้ปล่อยให้เติบโตไปมากเกินไปปัญหาต่างๆก็จะตามมา ปัญหาเมืองท่องเที่ยว จะเป็นเรื่องขยะ สิ่งแวดล้อมต่างๆ การใช้ทรัพยากรทางทะเล ทรัพยากรธรรมชาติทั้งหลาย ในขณะเดียวกันปัญหาอีกประการหนึ่ง คือเรื่องของค่าครองชีพ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการที่มีคนต่างชาติเข้ามา ซึ่งอาจจะต้องมีการคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย และจะต้องมีการจำกัดจำนวนให้พอเหมาะ จึงจะทำให้ภูเก็ต สามารถรักษาความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศได้ต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนของ สนช. จะมีส่วนสำคัญในเรื่องของการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ สนช. จะสามารถเข้าไปดูแลตรงนั้นด้วย แลอีกประการคือในเรื่องของกำกับช่วยรัฐบาลในการช่วยกันดูแลแก้ไขปัญหาของประชาชน สนช. สามารถเข้าไปได้ดำเนินการ เห็นจุดอะไรสำคัญ สนช. จะมีกระบวนการในรัฐสภาหลายอย่างด้วยกัน อาทิ การตั้งกระทู้ถามในเรื่องสำคัญที่ต้องการให้รัฐบาลมีการแก้ไขอยากเร่งด่วน พร้อมขอฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าโครงการนี้ เป็นโครงการสำคัญในการที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งทุกอย่างไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้โดยกระบวนการภาครัฐ เพียงอย่างเดียว แต่จะเกิดขึ้นได้โดยกระบวนการภาคประชาชนนั่นเอง ที่จะพัฒนาไปได้ และส่วนหนึ่งภาคประชาชนจะต้องเสียสละด้วย ทั้งในเรื่องของการปรับตัวเองให้ทันกับสภาพแวดล้อมของโลกที่เป็นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเทคโนโลยี อยากฝากให้พี่น้องประชาชน ได้สละเวลาและให้ความสำคัญหันมาสนใจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศครั้งนี้ด้วย







