จังหวัดภูเก็ตประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 5/2561สร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุน ให้ภูเก็ต พร้อมเป็น Phuket Mice Destination

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561  เวลา 09.30 น. นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต (กรอ.จังหวัดภูเก็ต) ครั้งที่ 5/2561 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุม คอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

โดยที่ประชุมได้มีการรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ในเดือนตุลาคม 2561 ข้อมูลจากการสอบถามผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตพบว่าในเดือนตุลาคม 2561 มีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวร้อยละ 71.13 ลดลงร้อยละ 2.3 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติอยู่ที่ 14.89:85.11 ผู้เยี่ยมเยียนรวม 1,047,964 คน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของผู้เยี่ยมเยือน 7,575.68 บาท/คน /วัน  ทำให้มีรายได้จากการท่องเที่ยว 37,158.38 ล้านบาท โดยที่พักบริเวณชายหาด มีการจองเข้าพักสูงถึงร้อยละ 78.53 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในเดือนนี้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน,รัสเซีย,ออสเตรเลีย,เกาหลีมาเลเซียและเยอรมันตามลำดับ โดยสถานพักแรมบางแห่งแจ้งว่ามีการยกเลิก Booking เฉลี่ยประมาณ 5-10 % เฉพาะกรุ๊ปนักท่องเที่ยวจีนส่วนกลุ่ม FIT ยังคงเดินทางเข้าพื้นที่ปกติ จากนั้นที่ประชุม ได้ติดตามโครงการศึกษาตลาดและความพร้อมของพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในฐานะเมืองจุดหมายปลายทาง :Phuket MICE Destinations (ประชารัฐ D3) โดยสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คําปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ดำเนินการ ศึกษาตลาดและความพร้อมของพื้นที่จังหวัดภูเก็ตในฐานะเมืองจุดหมายปลายทาง ในหลายมิติอาทิการวิเคราะห์ตลาดและความพร้อมของพื้นที่ภูเก็ตการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเชิงคุณภาพ การวิเคราะห์แนวโน้มของอุตสาหกรรมไมซ์ การวิเคราะห์คู่แข่ง การวิเคราะห์ปัจจัยในการสร้างที่เหมาะสมกับตลาดการลงทุนสร้างศูนย์ประชุม การศึกษาระบุพื้นที่ที่เหมาะสมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโครงการและสรุปผลการศึกษา

สำหรับจุดแข็งของจังหวัดภูเก็ตคือเป็นพื้นที่ที่มีการลงทุนของโครงการขนาดใหญ่อาทิ Phuket International Airport Phase 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้ภูเก็ตเป็น Gateway to the Andaman สามารถรองรับผู้โดยสารจาก 6.5 ล้านคนเป็น 12.5 ล้านคนต่อปี   นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนของภาคเอกชน  ในพื้นที่ อาทิ      อิเกียภูเก็ตก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของอิเกียสามารถซื้อสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องเดินทางมาที่ Store บางนา       หรือโครงการเซ็นทรัลภูเก็ตเฟสที่ 2 ที่มีการใช้เงินลงทุนกว่า 6,650 ล้านบาท รวมไปถึงโครงการภูเก็ต Smart City 2020 ซึ่งจะเป็น smart City แห่งแรกของไทยใช้เงินประมาณ 430 ล้านบาทเป็นเมือง Internet of Things (IOT) ใช้ระบบเครือข่ายปิดไฟตามแหล่งสาธารณะการเชื่อมโยงข้อมูลการแจกซิมมือถือนักท่องเที่ยวต่างชาติเพื่อติดตามการเดินทางการพัฒนาจุดนี้จะทำให้ภูเก็ตมีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น และ โครงการรถไฟรางเบา ที่มีงบลงทุนกว่า 24,000 ล้านบาท คาดการณ์จะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 68,000 คน ทั้งนี้หากมีการดำเนินโครงการเหล่านี้สำเร็จก็จะทำให้ จังหวัดภูเก็ตมีจุดแข็งมีความพร้อมของพื้นที่ในฐานะเมืองจุดหมายปลายทาง :Phuket MICE Destinations (ประชารัฐ D3) โดย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการพร้อมที่จะลงมาช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมต่อไป