ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการถือศีลอดของมุสลิม

มิถุนายน 2, 2016 ข่าวทั่วไป 422

อบจ.ภูเก็ตส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการถือศีลอดของมุสลิมในจังหวัดมอบอิทผลัม ข้าวสารแก่มัสยิด 56 แห่ง

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2559 ที่ห้องประชุมอาคารศูนย์ประชุมกลุ่มจังหวัด นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการถือศีลอดของมุสลิมในจังหวัดภูเก็ตประจำปีงบประมาณ 2559 โดยมีผู้แทนจากมัสยิด 56 แห่งในจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้รับมอบ

นางสาวกมลทิพย์ เอ่งฉ้วน หัวหน้าสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ในการส่งเสริมการกีฬา จารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นและตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 ให้มีอำนาจหน้าที่บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น ประกอบกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีนโยบายในการบริหารราชการ ด้านสังคมจิตวิทยา ที่มุ่งสร้างความเข้มแข็ง ปลูกฝังทัศนคติความเป็นไทย ซึ่งมีจารีตประเพณีอันงดงาม เพื่อให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ สามัคคี โดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแนวทางการพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณีและภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมการทะนุบำรุงศาสนาและจริยธรรม ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามอำนาจหน้าที่และนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตจึงได้ทำพิธีมอบข้าวสารและอินทผลัมให้แก่ผู้แทนจากมัสยิดต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ตจำนวน 56 แห่ง ตามโครงการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการถือศีลอดของชาวมุสลิมในจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งเสริมให้ชาวไทยมุสลิมในจังหวัดภูเก็ตได้ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาและรักษาจารีตประเพณีอันดีงามของศาสนาอิสลามให้คงอยู่และส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐกับชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอันนำไปสู่การเกิดความรักความสามัคคีต่อไป

ขณะที่นายวัชรินทร์ ปฐมวัฒนพงศ์ กล่าวว่า การถือศีลอด คือการอดอาหารและเครื่องดื่มตั้งแต่ยามรุ่งอรุณจนกระทั่งตะวันตกดิน ซึ่งมีผลทำให้เกิดการสำรวมทั้งกาย วาจาและใจ และเป็นการปกป้องตัวเองจากความชั่วทั้งมวลเพราะการถือศีลอดมิใช่เพียงแต่เป็นการอดอาหารเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดการอดทน อดกลั้น มิให้เพลี่ยงพล้ำไปในทางชั่วร้าย ทำให้รู้จักความหิวโหย รวมทั้งทำให้รู้ซึ้งถึงสภาพของผู้ยากไร้ได้เป็นอย่างดี โดยปกติเมื่อร่างกายไม่ได้บริโภคอาหารและน้ำเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้ขาดพลังงานจากสารอาหารและต้องสูญเสียน้ำจากการขับถ่าย ซึ่งเมื่อถึงเวลาละศีลอด ชาวมุสลิมมักจะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และให้พลังงานสูง เช่น อินทผลัม เพราะในเนื้ออินทผลัมประกอบด้วย น้ำตาลฟรุกโตส กลูโคส น้ำ วิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะน้ำตาลฟรุกโตสจัดเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายเป็นอย่างมากและเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็ว