ส่งเสริมอาชีพ หลักสูตร “การพิมพ์ซิลค์สกรีน”

พฤษภาคม 12, 2016 ข่าวทั่วไป 450

อบจ.ภูเก็ต จัดฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพ หลักสูตร “การพิมพ์ซิลค์สกรีน”

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 เวลา 09.00 น. นายธีระ เจี่ยสกุล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพ ประจำปี 2559 หลักสูตร “การพิมพ์ซิลค์สกรีน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์ประสานงานชมรมผู้สูงอายุจังหวัดภูเก็ต โดยมีประชาชนในจังหวัดภูเก็ต สมัครเข้ารับการฝึกอบรมจำนวน 40 คน ซึ่งได้รับเกียรติจาก อ.ฤธรรมรง ปลัดสงคราม และ อ.พฤทธิพงศ์ พุฒขาว จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เป็นวิทยากรให้ความรู้

ทั้งนี้ ด้วยปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ การลงทุนไม่ได้ผลดี จนเกิดปัญหาการว่างงานและปัญหาอื่นๆ ตามมา ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนในสังคมอยู่ได้โดยไม่เดือดร้อน จึงจำเป็นต้องหาหลักและวิธีการที่จะทำให้ประชาชนมีรายรับเพิ่มขึ้นและลดรายจ่ายบางส่วนลง โดยการนำทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นและการผลิตของใช้เอง รวมไปถึงทำให้ประชาชนได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดอบรมให้ความรู้ด้านอาชีพแก่ประชาชน ยกระดับสินค้าพื้นบ้านและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค สร้างอาชีพ สร้างรายได้นำไปสู่การยกระดับสินค้าให้มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยกำหนดให้มีการอบรมหลักสูตรการพิมพ์ซิลค์สกรีน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

นายธีระ เจี่ยสกุล ประธานสภา อบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีที่โครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพ ประจำปี 2559 หลักสูตร “การพิมพ์ซิลค์สกรีน” ได้รับความสนใจจากประชาชนในจังหวัดภูเก็ต สมัครเข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 40 คน ซึ่ง อบจ.ภูเก็ต ได้ให้ความสำคัญกับโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นโครงการที่ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ โดยการฝึกอบรมครั้งนี้ได้วิทยากรที่มีความรู้ความสามารถจากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จำนวน 2 ท่าน ที่ได้สละเวลามาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้แก่ประชาชนที่สนใจ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประกอบอาชีพและถ่ายทอดให้กับผู้สนใจในชุมชนได้ รวมถึงมีทางเลือกในการประกอบอาชีพหรือสร้างรายได้ ซึ่งนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต”.