แขวงทางหลวงภูเก็ตจัดประชุมเพื่อหารือรูปแบบโครงการการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างสะพานกลับรถต่างระดับ ทางหลวงหมายเลข 402ตอน หมากปรก-เมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตที่กม. 39 + 810.400 (แยกบ้านหยี่เต้ง) เพื่อคัดเลือก รูปแบบจุดกลับรถที่เหมาะสมของโครงการและตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2562 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมแคแสด มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายกองโทอดุลย์ชูทอง นายอำเภอถลาง เป็นประธานเปิดการประชุมเพื่อหารือรูปแบบโครงการการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างสะพานกลับรถต่างระดับ ทางหลวงหมายเลข 402ตอน หมากปรก-เมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตที่กม. 39 + 810.400 (แยกบ้านหยี่เต้ง) โดยมีส่วนราชการผู้นำท้องถิ่นผู้นำชุมชนและประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการก่อสร้างโครงการเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น
นายกองโทอดุลย์ ชูทอง นายอำเภอถลาง กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อต้องการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในถนนสาย 402 ถนนเทพกระษัตรี ซึ่งเป็นถนนสายหลักซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวดังนั้นสิ่งสำคัญของการก่อสร้างโครงการนี้คือเนื่องจากในพื้นที่ที่มีการก่อสร้างดังกล่าวจะอยู่ใกล้เคียงกับโบราณสถานและสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติ ศาสตร์ดังนั้นการก่อสร้างจึงต้องมีความระมัดระวังและมีการรับฟังความคิดเห็นเพื่อแสดงความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชนเพื่อให้โครงการแล้วเสร็จโดยเร็วและทุกภาคส่วนมีความพึงพอใจ อย่างสูงสุด ดังนั้นการประชุมในครั้งนี้จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยสติด้วยเหตุด้วยผลเพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุดเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ให้เกิดผลสำเร็จและเป็นรูปธรรม
นายพิจักษณ์ ศรชนะ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงภูเก็ต กล่าวว่า กรมทางหลวงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาประกอบด้วยบริษัทคอนซัลแทนท์ออฟเทคโนโลยีจำกัดและบริษัทซิตี้แพลนโปรเฟสชั่นแนลจำกัด ดำเนินการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างสะพานกลับรถต่างระดับบนทางหลวงหมายเลข 402 ตอน หมากปรก-เมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตที่กม. 39 + 810.400 (แยกบ้านกยี่เต้ง) ซึ่งกรมทางหลวงได้เล็งเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนอันจะเอื้อประโยชน์สูงสุดในการดำเนินงานศึกษาของโครงการจึงกำหนดให้มีการประชุมเพื่อหารือรูปแบบโครงการในครั้งนี้ขึ้นมีเป้าหมายเพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรูปแบบทางเลือกในการพัฒนาโครงการข้อดีข้อเสียของแต่ละรูปแบบให้กลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเพื่อนำไปพิจารณาประกอบการคัดเลือกรูปแบบการพัฒนาโครงการที่เหมาะสม
โดยการประชุมได้มีการนำเสนอรูปแบบทางเลือกในการพัฒนาโครงการจำนวน 2 รูปแบบโดยมีรายละเอียดดังนี้
รูปแบบที่ 1 คือ รูปแบบสะพานกลับรถ ทั้งนี้สะพานกลับรถแต่ละสะพานจะเป็นสะพานขนาด 1 ช่องจราจรความ กว้าง ผิวจราจร 4 ถึง 6 เมตรไหล่ทางฝั่งซ้ายกว้าง 1.50 เมตรและฝั่งขวากว้าง 0.50 เมตรรวมความกว้างของโครงสร้าง สะพาน 6-8 เมตร วัดจากหน้าราวกันตกทั้งสองฝั่งโดยโครงสร้างส่วนที่บรรจุกับทางหลวงหมายเลข 402 จะเป็นโครงสร้างขนาด 1 ช่องจราจรกว้าง 4 เมตรไหล่ทางฝั่งซ้ายกว้าง 1.50 และความกว้าง 0.50 เมตรรูปแบบโครงสร้างสะพานเป็นสะพานแบบคานรูปตัวไอยาว 315.282 เมตรสำหรับสะพานทิศทางเข้าเมือง(ระยะที่ 1 ) และยาว 299.292 เมตรสำหรับสะพานทิศทางออกเมือง(ระยะที่ 2) ในการก่อสร้างสะพานกลับรถได้กำหนดให้มีการปรับปรุงถนนระดับดินโดยการเพิ่มช่องจราจรด้านซ้ายชิดเขตทางผิวทางลาดยางกว้าง 4.70 ถึง 5.20 เมตรเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการเข้าออกพื้นที่ 2 ข้างทางช่วงสะพานและเพียงพอสำหรับกรณีรถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุให้รถสามารถแซงไปได้โดยไม่เกิดการติดขัดเมื่อสะพานกลับรถลดระดับลงสู่ระดับถนนเดิมแล้วช่องจราจรฝั่งซ้ายจะบรรจบกับถนนเดิมทั้งนี้จากรูปแบบดังกล่าวจำเป็นต้องขยายเขตทางหลวงเดิมจาก 40 เมตรเป็น 60 เมตรโดยขยายออกฝั่งละ 10 เมตร(ขยายเขตทางฝั่งซ้ายตั้งแต่กม.39 + 460 ถึงกม. 40 + 140 และขยายเขตทางฝั่งขวาตั้งแต่กม. 39 + 470.900 ถึงกม. 40+ 180) เพื่อให้มี ที่ว่างเพียงพอต่องานก่อสร้างสะพานกลับรถและช่องจราจรข้างสะพาน
รูปแบบที่ 2 คือรูปแบบทางกลับรถระดับพื้นราบ โดยช่องทางกลับรถอยู่ช่องขวาสุดโดยแยกออกจากช่องทางสำหรับรถทางตรงด้วยเกาะแยกเพื่อความต่อเนื่องและเพิ่มความปลอดภัยสำหรับรถทางตรงจะมี 3 ช่องทางและกำหนดให้เบี่ยงในออกไปด้านข้างช่องทางกลับรถจะมีขนาดกว้าง 3.5- 11.0 เมตรโดยกำหนดให้รัศมีด้านใน 5 เมตร รัศมีด้านนอก 15 เมตร ซึ่งสามารถรองรับการขับรถของรถบรรทุกกึ่งพ่วง(Semi Trailer) รูปแบบนี้จะต้อง ขยายเขตทางหลวงเดิมออกมากกว่ารูปแบบสะพานกลับรถรวมพื้นที่ต้องเวียนคืนเพิ่มเติมจากรูปแบบสะพานกลับรถ 2.11 ไร่ โดยมีพื้นที่ที่ต้องเวนคืนเพิ่มเติมจากเขตทางเดิมรวมทั้งสิ้น 10.7 9 ไร่จากเขตทางเดิมและพื้นที่เฉพาะช่วงที่เป็นจุดกลับรถจะกว้างกว่ารูปแบบสะพานกลับรถคือที่ประมาณช่วงกม. 39+ 600 ถึงกม. 39 + 9 80 ฝั่งซ้ายทางและช่วงกม. 39 + 628.900 ถึงกม. 39 + 922.500 ฝั่งขวาทาง ซึ่งรูปแบบสะพานกลับรถจะต้องเพิ่มพื้นที่ฝั่งละ 30 เมตรจากกึ่งกลางทางแต่รูปแบบทางกลับรถระดับดินจะต้องใช้พื้นที่ฝั่งละ 35 เมตรจากกึ่งกลางทาง
สำหรับการประชุมในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่มีการแสดงความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนโดยได้นำผลจากการประชุมในครั้งที่ 1 มานำเสนอ ต่อที่ประชุมในวันนี้ (11 ม.ค.62) ในส่วนของคณะวิศวกรและประชาชนที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในครั้งที่ 1 ได้มีความคิดเห็นคัดเลือกรูปแบบจุดกลับรถที่เหมาะสมของโครงการโดยได้พิจารณาเปรียบเทียบความเหมาะสมของรูปแบบจุดกลับรถตามข้อได้เปรียบเสียเปรียบข้างต้นรวมถึงการนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อหารือแนวทางการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาพิจารณาประกอบการคัดเลือกรูปแบบจุดกลับรถสรุปได้ว่า”รูปแบบการกลับรดระดับพื้นราบมีความเหมาะสมมากที่สุดเนื่องจากมีข้อได้เปรียบกว่ารูปแบบสะพานกลับรถในปัจจัยผลกระทบต่อการจราจรระหว่างก่อสร้างน้อยกว่า ไม่จำเป็นต้องมีการขนย้ายวัสดุชิ้นส่วนโครงสร้างมีระยะเวลาที่ใช้ก่อสร้างน้อยกว่าราคาค่าก่อสร้างและค่าบำรุงรักษาต่ำกว่ารูปแบบสะพานกลับรถรวมถึงไม่มีเกิดผลกระทบในด้านการบดบังทัศนียภาพส่งผลให้รูปแบบทางกลับรถระดับพื้นราบมีความเหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการต่อไป
อย่างไรก็ตามสำหรับการประชุมในครั้งที่ 2 นี้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในการสรุปผลการประชุมฯจะได้นำข้อมูลที่ได้รับจากการแสดงความคิดเห็นของทุกภาคส่วนในครั้งนี้เพื่อนำไปสรุปเป็นข้อมูลเพื่อนำไปสู่การคัดเลือก รูปแบบจุดกลับรถที่เหมาะสมของโครงการและตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป และจะได้นำข้อมูลมาเสนอต่อทุกท่านอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป
โดยโครงการฯยังคงเปิดให้พี่น้องประชาชนสามารถที่จะร่วมแสดงความคิดเห็นในการก่อสร้างโครงการต่างๆได้ผ่านกลุ่ม LINE สะพานกลับรถบ้านหยี่เต้ง, Facebook ของโครงการสะพานกลับรถบ้านหยี่เต้ง และ www.U-TURN 402 .com





