
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตร่วมประชุมกับส่วนราชการและตัวแทนองค์กรเอกชนด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต หารือแนวทางมาตรการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังผู้มีความเสี่ยงโรค Covid -19 ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่เดินทางมายังท่าอากาศยานภูเก็ตอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และท่าเรือ


เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสึนามิ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานการประชุมการกำหนดแนวทางมาตรการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังผู้มีความเสี่ยงโรค Covid -19 ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่เดินทางมายังท่าอากาศยานภูเก็ตอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยมี นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต,นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้,ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนภาคเอกชน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคCovid -19 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ขณะนี้ทางจังหวัดมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตาม พระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่ง มีการดำเนินการตามพระราชบัญญัติดังกล่าว และมีการแต่งตั้งคณะทำงานประจำช่องทางเข้าออกประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศภูเก็ตและท่าเรือภูเก็ต เพื่อให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว


นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในฐานะภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ต้องการให้ทางจังหวัดภูเก็ต มีมาตรการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้าพื้นที่ภูเก็ต ทั้งที่ ท่าอากาศยาน สนามบินท่าเรือ โดยการตรวจวัดอุณหภูมิคัดกรองนักท่องเที่ยวทุกคนในทุกเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ

นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ตต้องการคือข้อมูล ของการปฏิบัติต่อผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามที่มีประกาศ กระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ Covid -19 ได้ระบุท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย ได้แก่ 1.สาธารณรัฐเกาหลี 2. สาธารณรัฐประชาชนจีนรวมถึงการบริหารพิเศษมาเก๊าและฮ่องกง 3. สาธารณรัฐอิตาลีและ 4.สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านนั้น เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามกฎหมายที่ตราในราชกิจจานุเบกษาและเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยในการปฏิบัติงาน ในส่วนของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและพันธมิตรองค์กรเอกชนด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตจึงใคร่ขอความชัดเจนในแนวทางการปฏิบัติงานจากกลุ่มผู้โดยสาร 4 กลุ่มหลักดังนี้
1. ผู้โดยสารชาวไทยจากกลุ่มประเทศเสี่ยง
2.ผู้โดยสารตามสัญชาติของกลุ่มประเทศเสี่ยงที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยง
3. ผู้โดยสารตามสัญชาติของกลุ่มประเทศเสี่ยงที่เดินทางมาจากประเทศอื่น
4.ผู้โดยสารสัญชาติอื่นที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงที่มี
ความชัดเจนในแนวทางการปฏิบัติ เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความเข้าใจตรงกันและสามารถปฏิบัติงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการระบุ ผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ทั้งในส่วนการกักกันตัว,การเฝ้าระวัง ทั้งที่สนามบินและด่านตรวจต่างๆให้มีมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและนักท่องเที่ยวทั่วไป
นอกจากนี้จากข้อมูลพบว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวบางส่วนนิยมเดินทางเข้ามาจังหวัดภูเก็ตโดยทางเรือทั้งในส่วนโดยสารและเรือสำราญส่วนตัว ในประเด็นนี้องค์กรเอกชน ด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตใคร่ขอความชัดเจนด้าน ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจในการขึ้นลงทางเดียวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดและได้ทำการตรวจสอบตามกฎหมายอย่างเข้มข้นหรือไม่ โดยเบื้องต้น จังหวัดภูเก็ตได้รับหนังสือข้อเสนอความต้องการจากภาคเอกชน และพร้อมจะสรุป ข้อมูลประเด็นที่ภาคเอกชนต้องการ เพื่อนำเสนอต่อส่วนกลางและกระทรวงสาธารณสุขต่อไป


Pingback: vagragenericaar.org
Pingback: generic albuterol inhaler price
Pingback: generic cialis 2020
Pingback: buy chloroquine phosphate
Pingback: average cost of hydroxychloroquine