ภูเก็ต พิจารณากำหนดค่าปรับผู้ประกอบการที่ไม่ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตก่อสร้างอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ห้องประชุมสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต นายธีระ อนันตเสรีวิทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ครั้งที่ 1/2560 โดยมีนายทวี หอมหวล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดภูเก็ต, นายอติคุณ พ่วงพร้อม รองอัยการจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.จักรา เสาวคนธ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิภูธรจังหวัดภูเก็ต และนายอนันต์ ชูช่วย นายช่างโยธาอาวุโส หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ เข้าร่วมประชุม

การประชุมในครั้งนี้ เป็นการพิจารณาเปรียบเทียบคดีตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย

กรณีที่ 1. โดยเทศบาลตำบลรัษฎา ได้ดำเนินการตรวจสอบอาคารทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 13  ตั้งอยู่ ถนนเกาะตะเคียน หมู่ 1 ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พบว่า การดำเนินการก่อสร้างดังกล่าวไม่มีการยื่นคำร้องขออนุญาตก่อสร้างอาคาร

กรณีที่ 2. องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ได้ดำเนินการตรวจสอบใบคำขออนุญาตก่อสร้างและเอกสารประกอบการขออนุญาตก่อสร้างอาคารพาณิชย์ ลักษณะเป็นอาคารพักอาศัยรวม 3 ชั้น 20 ห้อง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 5 ตำบลกมลาอำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พบว่า ผู้ต้องหายังไม่มีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นจึงไม่ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารให้แก่ผู้ต้องหา

กรณีที่ 3” องค์การบริหารส่วนตำบลกมลา ได้ดำเนินการตรวจสอบอาคาร รวมทั้งหมด 8 หลัง ตั้งอยู่อาคารเลขที่ 17/52 หมู่ 6 ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พบว่าการดำเนินการก่อสร้างไม่มีการยื่นคำขอร้องขออนุญาตก่อสร้างอาคาร

กรณีที่ 4. ที่เทศบาลตำบลฉลอง ได้ดำเนินการตรวจสอบอาคาร คสล 5 ชั้น ตั้งอยู่อาคารเลขที่ 87/63 หมู่ 10 ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต พบว่า ได้มีการดำเนินต่ออาคารบริเวณชั้นดาดฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาตก่อสร้างอาคาร จึงได้มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ห้ามใช้อาคาร และคำสั่งยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร

ทั้ง 4 กรณีดังกล่าว เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ในลักษณะเดียวกัน คือ ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 40 ปรับตามมาตรา 67 และเป็นกรณีที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ตามมาตรา 70 โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาเปรียบเทียบคดี เพื่อกำหนดค่าปรับ ซึ่งตามมาตรา 67 ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และตามมาตรา 70 โทษเป็น 2 เท่าของโทษที่กำหนด ซึ่งทั้ง 4 กรณีมีการรับสารภาพและยินยอมเข้าสู่กระบวนการให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติการควบคุมอาคารพ.ศ.2522