หอการค้า จังหวัดภูเก็ตเข้าสู่ยุคสมาร์ทซิตี้เน้นผลักดันโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2560 เวลา 13.30 น.นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดที่ทำการใหม่ของหอการค้า จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย นายชาติชาย สุขไสย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดภูเก็ต คุณประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานหอการค้ากิตติมศักดิ์ นายสุรชัย ชัยวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต คณะกรรมการหอการค้า หน่วยราชการ ภาคเอกชน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายสุรชัย ชัยวัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หอการค้า จ.ภูเก็ตได้เปิดดำเนินการมาได้ 34 ปีแล้ว หอการค้านี้จัดตั้งตามพระราชบัญญัติหอการค้า พ.ศ. 2509 และอยู่ในความควบคุมดูแลของสำนักงานทะเบียนหอการค้าประจำจังหวัดภูเก็ต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้มีการพัฒนาองค์กรหอการค้าให้มีความเข้มแข็งและเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดำเนินกิจกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสมาชิกและผู้ประกอบการ SMEs ภายในจังหวัด ตลอดจนทำหน้าที่ส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ร่วมกับภาคราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้อง
ในส่วนของการเป็นสมาชิกหอการค้าฯ ปัจจุบันมี 622 ราย ได้มีการสนับสนุนสมาชิกหอการค้า ดังนี้
- ทางหอการค้าร่วมมือกับธนาคารเอสเอ็มอี โดยสมาชิกสามารถขอสินเชื่อ เพื่อนำไปพัฒนาธุรกิจของตนให้แข็งแรงขึ้น ดอกเบี้ย 4% โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ หรือคนค้ำประกัน และไม่ต้องทำประกันภัย ซึ่งเมื่อธุรกิจแข็งแรงแล้ว ก็จะนำไปสู่การสตาร์ทอัพ เพื่อการเติบโตในอนาคตต่อไป ซึ่งสินเชื่อที่ผ่านแล้วจำนวน 402 ราย รวมเป็นเงิน 1075 ล้านบาทและยังมีโครงการต่อเนื่องอีกมากมาย
- เมื่อสมาชิกมีเงินทุนแล้ว ทางหอการค้าได้ร่วมมือกับทางอาชีวะศึกษา จัดงาน หนึ่งหอการค้าจังหวัด หนึ่งอาชีวะศึกษา ช่วยผู้ประกอบการมั่งคั่ง โดยเอสเอ็มอีใดที่ขาดแคลนแรงงาน สามารถแจ้งความต้องการของสถานประกอบการท่านไปยังอาชีวะได้ ซึ่งทางอาชีวะศึกษาจะมีนักเรียนนักศึกษาทวิภาคีฝึกงานทุกสาขา ทั้งทางช่าง บัญชีการเงิน หรืออื่น ๆ ซึ่งปีที่แล้วได้จัดงานทวิภาคีประมาณ 1000 คน “เอาเท่าไรอาชีวะจัดให้ ”
- ทางหอการค้าได้ร่วมมือทำวีซ่ากับเอเปค19 ประเทศ ทำครั้งเดียวสามารถไปได้สูงสุดถึง15 ประเทศ
4.นอกจากนั้น ปัจจุบันหอการค้าได้เปิดคลินิกเอสเอ็มอี เพื่อเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจให้กับสมาชิกซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้สมาชิกแข็งแรงตามที่รัฐบาลต้องการ
5.นอกจากนั้นหอการค้ายังมีการอบรมต่างๆ ทั้งจากภาครัฐบาล และภาคเอกชน ให้กับสมาชิก เพื่อจะได้พัฒนาอีกทางหนึ่ง
สำหรับการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตเมืองท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลกสร้างรายได้ 15% ของการท่องเที่ยวทั้งประเทศ มีการจัดระเบียบการท่องเที่ยว ระเบียบเมืองให้เกิดความสมดุล แบ่งปันกันอย่างทั่วถึงตามหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือแผน 12 นอกจากนั้นยังผลักดันให้เกิด สมาร์ทซิตี้เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับเมืองอัจฉริยะ เช่น การบริการที่รวดเร็วความปลอดภัย การอนุรักษ์พลังงาน พลังงานทดแทน
ภูเก็ตยังเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งหลักการ คือเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมซึ่งมีสามมิติ ภูเก็ตอยู่ในมิติที่สาม ได้เน้นภาคการบริการให้มีมูลค่ามากขึ้น สร้างความได้เปรียบ โดยความหลากหลายเชิงวัฒนธรรมจะนำมาซึ่งความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ภูเก็ตถือเป็นจังหวัดชั้นนำของประเทศซึ่งมีเป้าหมายที่ต้องแข่งขันกับประเทศต่างๆเพื่อนำรายได้เข้าประเทศเป็นภารกิจของหอการค้าที่ต้องผลักดันเพื่อให้เกิดการแข่งขันที่สู้คู่แข่งขันโดยเป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล คือความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน





