จังหวัดภูเก็ต เร่งจัดระเบียบท่าเทียบเรือต้อนรับฤดูการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมทั้งเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติ ที่มีมาตรฐานสากลในโอกาสการแถลงข่าวผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พบสื่อมวลชน ครั้งที่ 2/2561
นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ชี้แจงถึงการจัดระเบียบท่าเทียบเรือต้อนรับฤดูการท่องเที่ยว ว่า ทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการวางแผนการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการจัดระเบียบท่าเทียบเรือ และเพื่อกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติ ที่มีมาตรฐานสากล ซึ่งการดำเนินการในขั้นตอนแรกได้กำหนดให้มีการนำร่องการจัดระเบียบท่าเทียบเรือ จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือรัษฎา, ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง, ท่าเทียบเรืออ่าวปอ, และท่าเทียบเรือรอยัล ภูเก็ต มารีน่า โดยได้มีการกำหนดองค์ประกอบดังนี้ 1. เรื่องความพร้อมของผู้โดยสาร จะต้องรู้ชื่อตัวบุคคลที่โดยสารไปกับเรือ รวมทั้งความพร้อมของอุปกรณ์ช่วยชีวิตประจำเรือ เช่น เสื้อชูชีพ 2. ตัวเรือจะต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมเจ้าท่า 3. การเชื่อมโยงข้อมูลติดต่อสื่อสารระหว่างเรือกับศูนย์ควบคุมเรือชายฝั่ง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็ว 4. มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล โดยมีสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต เป็นหน่วยงานหลักในประสานงานการช่วยเหลือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การเข้าไปเผชิญเหตุในจุดที่เกิดขึ้นสามารถเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
นายสาคร ปู่ดำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่า มาตรการความปลอดภัยทางน้ำที่เจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต นำมาใช้มีอยู่ 3 ประเด็นด้วยกัน คือ ท่าเทียบเรือจะต้องมีความมั่นคงแข็งแรงและมีสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งได้มีการจัดระเบียบของท่าเทียบเรือให้มีความปลอดภัย ทั้งในส่วนของสะพานท่าเทียบเรือ สะพานเชื่อมเรือ โดยเฉพาะถ้าเทียบเรือรัษฎา, ประเด็นที่สอง คือ เรือจะต้องมีความปลอดภัย อุปกรณ์ประจำเรือ เสื้อชูชีพจะต้องได้มาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีพนักงานประจำท่าเทียบเรือ จำนวน 15 คน ประจำท่าเรือที่สำคัญ ซึ่งจะทำการตรวจเช็คการสวมใส่เสื้อชูชีพ การควบคุมคนโดยสารมิให้เกินกว่าที่ระบุไว้ในใบอนุญาต นอกจากนี้ยังได้มีการวางระบบติดตามเรือ (AIS ) เรือโดยสารที่บรรทุกคนโดยสารตั้งแต่ 25 คนขึ้นไป และสัญญาณวิทยุ VHF โดยติดต่อมายังศูนย์ควบคุมเรือยอร์ช ( PYCC) บริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง หากเกิดอุบัติเหตุหรือขอความช่วยเหลือ, และมีการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ในการให้ความช่วยเหลือ รวมทั้งมีการสุ่มตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอลล์ และตรวจปัสสาวะ เพื่อตรวจหาสารเสพติดเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นกัปตันเรือ หรือ ผู้ควบคุมและช่างเครื่องเรือ ส่วนในเรื่องของความช่วยเหลือ เจ้าท่าได้มีการประสานงานศูนย์รักษาผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล (ศรชล.) ซึ่งมี ศรชล. เขต 3 เป็นหน่วยงานหลัก มีสมาชิกอีก 5 หน่วยงาน คือ สำนักงานประมง ศุลกากร ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ตำรวจน้ำ มีหน้าที่คอยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหรือประชาชนผู้ประสบภัยทางทะเล โดยแจ้งตรงต่อ ศรชล.เขต 3 และ ศรชล.เขต 3 จะแจ้งให้หน่วยงานที่ใกล้ที่สุดได้ทำการช่วยเหลือต่อไป ส่วนศูนย์ PYCC จะทำการตรวจสอบพิกัด และประสานการช่วยเหลือในทันที





