เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จัดแถลงปฏิเสธข่าวลบในโลกโซเชียล แจงนักข่าวไม่เป็นความจริง วอนลูกค้าและประชาชน อย่าหลงเชื่อ
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 เวลา 14.00 น. บริษัท เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด นำโดย นายสาวิตร เกตุโรจน์ ผู้บริหารบริษัทฯ , ผู้จัดการโครงการและฝ่ายกฎหมายของ บริษัทฯ จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีที่มีข่าวด้านลบต่อบริษัทฯออกมาในสื่อโซเชียล ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมาส่งผลให้มีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทฯเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่มีลูกค้าบางส่วนเริ่มชะลอการทำสัญญาซื้อขายกับทางบริษัทฯ และอาจนำความเสียหายต่อธุรกิจได้ จากข่าวดังกล่าวนี้นายสาวิตรยืนยันว่า ไม่มีเค้ามูลของความจริงแต่ประการใด ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวว่าเหตุใดนายสาวิตรจึงไม่ดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำ แทนการเปิดแถลงข่าว
นายสาวิตร เกตุโรจน์ กล่าวว่า ตนดำเนินการแน่นอนและขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการและบางข้อมูลยังไม่สามารถจะเปิดเผยได้ในขณะนี้ ต้องให้ติดตามต่อไปจะมีข่าวการดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำการปล่อยข่าวด้านลบออกมาทำลายชื่อเสียงของบริษัท เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด อย่างแน่นอน เพราะตนเชื่อมั่นในความถูกต้องของบริษัทฯว่าไม่ได้กระทำการใดที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน
นายสาวิตร กล่าวด้วยว่า ตนเคยมีกลุ่มผู้เรียกรับประโยชน์เข้ามาติดต่อเพื่อเรียกรับประโยชน์มูลค่ามหาศาล เนื่องจากโครงการของตนบางโครงการมีมูลค่าสูงถึง ระดับ 3,000 ล้านบาท โดยกล่าวหาว่ากลุ่มดังกล่าวพยายามจะหาข้อผิดด้านกฎหมายมาเป็นเหตุให้ตนต้องมาเคลียร์เงินจำนวนมหาศาลนี้ แต่ก็ไม่สามารถเอาผิดกับโครงการของ บริษัทฯได้ และกล่าวหาว่าคนกลุ่มนี้ถึงขั้นเคยข่มขู่ ที่จะสร้างข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงของบริษัทฯตน และข่มขู่ที่จะทำร้ายถึงชีวิตตนและคนในครอบครัวอีกด้วย และนี่เป็นเหตุผลที่ตนจำต้องจัดแถลงข่าวด่วนเพื่อสร้างความมั่นใจต่อเอเย่นต์ และลูกค้า ประชาชน ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตลอดถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเช่น แหล่งเงินทุน เป็นต้น ก่อนที่ธุรกิจจะพังพินาศเพราะกระบวนการข่าวลบนี้
นอกจากนี้ นายสาวิตรยังได้นำกลุ่มสื่อมวลชนลงไปตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายในการดำเนินการก่อสร้างโครงการคอนโดThe Emerald Central Condominium ที่ตั้งบน ถนนวิชิตสงคราม ปากซอยธิดา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่จัดแถลงข่าวและเป็น 1 ในโครงการ ที่มีข่าวลบ ดังกล่าว
สำหรับรายชื่อโครงการในเครือทั้งหมดของบริษัท เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กรุ๊ป จำกัดมีดังนี้
1.The Emerald Kathu Golf condo ที่ตั้ง อ.กะทู้ ใกล้สนามกอล์ฟ ภูเก็ตคันทรีคลับ จำนวน 54 ยูนิต ผู้ซื้อเข้าอยู่แล้ว
2.The Emerald Terrace Condominium Patong 1 ที่ตั้ง บนถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ หลังธนาคารออมสินป่าตอง จำนวน 141 ยูนิต ลูกค้าเข้าอยู่แล้ว
3.The Emerald Central Condominium ที่ตั้ง ถนนวิชิตสงคราม ปากซอยธิดา ไม่ไกลจากสี่แยกเซ็นทรัลภูเก็ต จำนวน 180 ยูนิต อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
4.The Emerald Terrace Condominium Patong 2 ที่ตั้ง ต.ป่าตอง ถ.พระบารมี จำนวน 36 ยูนิต อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
5.The Jade Villa Phuket ที่ตั้ง หาดกะหลิม ทางไปหาดกมลา จำนวน 8 ยูนิต อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
6.The Emerald Ao Nang Condominium ที่ตั้ง หาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ จำนวน 205 ยูนิต อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
7.The Emeald Nirvana Condominium Patong-Kalim ที่ตั้ง หาดกะหลิม ทางไปหาดกมลา จำนวน 50 ยูนิต อยู่ระหว่างการดำเนินการ EIA
8.The Emerald City Condominium Patong ที่ตั้ง ถนนผังเมือง สาย ก. ห่างจากจังซีลอน 700 เมตร จำนวน 264 ยูนิต อยู่ระหว่างการดำเนินการ EIA
- The Emerald Kalim Beach hotel ที่ตั้ง หาดกะหลิม ทางไปหาดกมลา อยู่ระหว่างการออกแบบ
สำหรับโครงการที่เป็นข่าวด้านลบ มี 3 โครงการคือ 1.โครงการ The Emerald Nirvana Condominium Patong-Kalim ที่หาดกะหลิม ทางไป หาดกมลา มีจำนวน 50 ยูนิต อยู่ในระหว่างการดำเนินการ EIA มี 2 ประเด็นที่เป็นข่าวด้านลบก็คือ
1.1 ข่าวด้านลบในเรื่องของ เอกสารสิทธิ์ บริษัทฯขอชี้แจงผ่านสื่อดังนี้คือ ในเรื่องเอกสารสิทธิ์ บริษัทฯซื้อที่ดินต่อจากผู้ขาย และได้ทำการตรวจสอบที่ดิน น.ส. 3 ก. ทั้ง 5 แปลง ที่แบ่งแยกไปทำโครงการต่างๆ ได้แก่ โรงแรม,ที่พักอาศัย, รวมถึงวิลล่า มีการตรวจสอบ สค.1 ที่ครอบครอง โดยนายสัน สเน่ห์ ซึ่งออกเอกสารสิทธิ์เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2494 ก่อน พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และปัจจุบัน ทายาทของเจ้าของ สค1.ยังมีชีวิตอยู่และได้มาเป็นพยานบันทึกต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ที่ดินแล้วว่าเป็น สค.1 ในพื้นที่ดังกล่าวจริง สำหรับเกี่ยวกับจำนวนเนื้อที่ ทางบริษัทฯได้สอบถามกับทายาท พบว่า การแจ้งจำนวนพื้นที่ต่ำไว้ เพื่อประหยัดภาษีท้องที่สมัยก่อน แต่การทำไร่ทำสวนก็ทำมากกว่าเป็นเรื่องปกติ เมื่อมาออกเอกสารก็แจงแนวเขตตามที่ครอบครองจริง และที่ดินข้างเคียงก็รับทราบ เจ้าหน้าที่จึงได้ออกเอกสารสิทธิ์ให้เป็น น.ส.3 ก.ดังกล่าว ออกให้มาตั้งแต่ พ.ศ.2539 เป็นเวลากว่า 20 ปี
1.2.ข่าวด้านลบเรื่องการขออนุญาตก่อสร้าง ทางบริษัทฯขอชี้แจงดังนี้คือ ในเรื่องการขออนุญาตก่อสร้าง บริษัทฯได้ปรับปรุงพื้นที่ภายใต้หลักวิศวกรรมและส่งผลกระทบน้อยที่สุด บริษัทฯได้ยื่นขอและได้รับใบอนุญาตก่อสร้างกำแพงกันดินจากเทศบาลป่าตอง ออกให้เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 และก่อสร้างแล้วเสร็จไปเรียบร้อยในส่วนของวิลล่า จำนวน 8 หลัง บริษัทฯได้ยื่นแบบขออนุญาตผ่านเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างเริ่มต้นก่อสร้าง ทั้งนี้ บริษัทฯได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ พบว่ามีบางส่วนที่ระดับความสูงเกิน ก็ไม่ได้นำไปพัฒนาอะไร รักษาไว้เป็นพื้นที่สีเขียว กรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามีการขุดถมดิน หากดูจากแบบที่จะทำการก่อสร้างพบว่าเป็นการสร้างอาคารที่ใช้พื้นที่ขุดดินออกน้อยมาก เพราะออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริง และตั้งใจให้ทั้งโครงการออกมาในรูปแบบเป็นการอยู่อาศัยอิงธรรมชาติให้มากที่สุด
1.3. สำหรับข้อกล่าวหาจากข่าวลบที่ว่า บริษัทฯถูกฟ้องร้องด้วยข้อหา ทำการขายและโฆษณาชวนเชื่อนั้นทางบริษัทฯขอชี้แจงว่า บริษัทไม่เคยถูกฟ้องร้องในข้อกล่าวหานี้แต่อย่างใด และทางบริษัทฯยังได้มีการสื่อสารที่ดีกับลูกค้ามาโดยตลอดถึงความคืบหน้าในการทำงานต่างๆ
2.โครงการที่เป็นข่าวลบโครงการที่ 2 ก็คือ โครงการ The Emerald Terrace Condominium Patong 1 ที่ตั้ง บนถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ หลังธนาคารออมสินป่าตอง จำนวน 141 ยูนิต ลูกค้าเข้าอยู่แล้ว
บริษัทฯขอชี้แจงว่าบริษัทฯมีการออกโฉนดห้องชุด(อช.) ให้กับลูกบ้านและได้โอนไปเรียบร้อยแล้ว ไม่เคยมีการร้องเรียนใดๆในเรื่องเอกสาร และการออกเอกสารมีคณะกรรมการกลางของจังหวัดเข้าตรวจสอบหลายฝ่าย อาทิ เทศบาลป่าตอง เป็นต้น บริษัทฯผ่านการตรวจสอบมาตรฐานอาคารด้านต่างๆถูกต้องเรียบร้อย
ต่อข้อกล่าวหาว่า ทางบริษัทฯนำเอาพื้นที่ชั้นดาดฟ้ามาทำเป็นห้องพักคอนโดขายนั้น ก็ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด บริษัทฯไม่เคยนำพื้นที่ดาดฟ้ามาทำเป็นห้องพักขายคอนโดตามที่ถูกกล่าวหา อีกประการ การจะออกเอกสารโฉนดห้องชุดได้นั้น จะไม่สามารถทำได้หากการก่อสร้างไม่ตรงกับแบบที่ขออนุญาต
3.โครงการที่เป็นข่าวลบโครงการที่ 3 ก็คือ .The Emerald Central Condominium ที่ตั้ง ถนนวิชิตสงคราม ปากซอยธิดา ไม่ไกลจากสี่แยกเซ็นทรัลภูเก็ต จำนวน 180 ยูนิต อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งตนจะเชิญผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความถูกต้องด้วยกันในวันนี้(7-3-60)บริษัทฯขอชี้แจงว่า
บริษัทฯทำการก่อสร้างตรงตามแบบแปลนทุกประการและเป็นอาคารเพื่ออยู่อาศัย 7 ชั้น ทั้ง 2 อาคาร หากคำนวณตามความสูงของกฎหมาย ก็ถือว่ายังไม่เกินเพราะปกติ ความสูงอาคารไม่เกิน 23 เมตร ซึ่งแต่ละชั้นของอาคาร สูงเพียง 3 เมตร รวม 7 ชั้น สูงเพียง 21 เมตร บริษัทฯมีการปรับแบบระเบียงอาคารเพียงบางส่วนเพื่อไม่ให้กระทบกับแนวเขตที่ดิน รวมถึงอาคารก็มีระยะร่นที่ถูกต้องตามใบอนุญาตทุกประการ
นายสาวิตรกล่าวตอกย้ำว่า ตนในฐานะผู้บริหาร ขอยืนยันว่า บริษัทฯทำธุรกิจด้วยการปฏิบัติตามกฎหมายและเคารพสิทธิของส่วนรวมมาโดยตลอด ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยใดๆ ตลอดชีวิตและขอส่งข่าวนี้ไปถึงยังกลุ่มผู้ที่ปล่อยข่าวลบทำลายชื่อเสียงของบริษัทฯ ให้ยุติการกระทำที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ต เพราะการกระทำดังกล่าว จะมีผลให้นักลงทุน ผู้ซื้อ ประชาชนทั้งชาวไทยและ ต่างประเทศ ขาดความเชื่อมั่นและทำให้ภาคธุรกิจเสียหายในวงกว้างได้ ทางบริษัทฯเองมีเจตนาสร้างธุรกิจเพื่อพัฒนาจังหวัดภูเก็ต รายได้จากธุรกิจของบริษัทฯ ก็มีแผนงานที่จะนำมาตอบแทนสู่สังคมภูเก็ตทั้งด้านการศึกษา และสร้างประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกหลายอย่างต่อไปในอนาคต นายสาวิตร กล่าวทิ้งท้าย










