ภูเก็ตประชุมคณะทำงานจัดทำแผนส่งเสริมคุณธรรมระดับจังหวัดประกาศใช้ศาสนา เศรษฐกิจพอเพียง ความเป็นไทย สร้างสังคมให้เข้มแข็งอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการจัดทำแผนส่งเสริมคุณธรรมจังหวัดภูเก็ตประจำปีงบประมาณพ. ศ. 2560-2564 ครั้งที่ 1/2560 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจัดตั้งคณะทำงานจัดทำแผนส่งเสริมคุณธรรม เพื่อดำเนินการส่งเสริมคุณธรรมให้แก่สังคมไทย โดยบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคม เพื่อพัฒนาคนให้มีคุณธรรมทางศาสนา น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และดำรงชีวิตตามวิถีวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม พัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านการส่งเสริมคุณธรรมให้มีประสิทธิภาพในมิติต่างๆ ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในกระบวนการส่งเสริมคุณธรรม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข มีธรรมาภิบาล สมานฉันท์ และส่งเสริมให้จังหวัดภูเก็ตเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรมในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก
นางอุทัย พัฒนพิชัย วัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ตกล่าวถึง “สาระสำคัญ” ของร่างแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้นำศาสนา วัฒนธรรมและความเป็นไทยมาสร้างสรรค์สังคมไทยให้เกิดความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพและคุณธรรม ตามยุทธศาสตร์ประชารัฐของรัฐบาลที่ต้องการให้สร้างพลังการทำความดีเพื่อชาติและประชาชน ซึ่งคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ได้เห็นชอบกรอบแนวคิดการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 โดยมีเป้าหมายต้องการให้ประเทศชาติมั่นคง สงบสุขด้วยมิติทางศาสนา ให้ประชาชนมั่งคั่งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเข้มแข็งด้วยวิถีวัฒนธรรมไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งแผนแม่บทฯ ดังกล่าว คณะอนุกรรมการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ และคณะทำงานยกร่างแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ได้นำผลประชาพิจารณ์จากภาคส่วนต่างๆ ใน 4 ภาค ทั่วประเทศ และการศึกษาทบทวนวิเคราะห์แผนมาใช้โดยบูรณาการผสมผสานความคิดกำหนดเป็นแผนงานหลักที่มีเป้าหมายทิศทางที่ชัดเจน ประกอบด้วย “ยุทธศาสตร์” 4 ข้อ ได้แก่ 1.วางระบบรากฐานการเสริมสร้างคุณธรรมในสังคมไทย 2.สร้างความเข้มแข็งในระบบการบริหารจัดการด้านการส่งเสริมคุณธรรมให้เป็นเอกภาพ 3.สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการส่งเสริมคุณธรรม 4. ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแบบอย่างด้านคุณธรรมในระดับประเทศ ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก โดยมีการ “ขับเคลื่อน” แผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติสู่การปฏิบัติ ผ่านกลไกภาคีเครือข่ายในภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชนเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อน อาทิ บูรณาการ ปรับแผนงาน โครงการของหน่วยงานในปี 2559-2560 ให้สอดรับกับแผนส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ,แต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมคุณธรรมในระดับกระทรวงและระดับจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนและติดตามประเมินผล และให้มีการแปลงแผนสู่การปฏิบัติในระดับต่างๆ ให้กระจายลงสู่พื้นที่โดยให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ ชี้แจงให้ความรู้ทุกภาคส่วน จัดประชุมสมัชชาคุณธรรม และกำกับติดตามประเมินผลเป็นระยะ มีคณะอนุกรรมการกำกับติดตามการส่งเสริมคุณธรรมในสังคมไทย และคณะอนุกรรมการจัดทำแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ กำกับติดตามให้บรรลุเป้าหมายและให้มีการยกย่องเชิดชูองค์กรและบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นในด้านส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โดยจะมีตัวชี้วัดออกมา อาทิ การทำแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการส่งเสริมคุณธรรมของหน่วยงานต่าง ๆ,ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์เพิ่มมากขึ้น และเกิดชุมชนคุณธรรม องค์กรคุณธรรม โรงเรียนคุณธรรมและหน่วยงานคุณธรรม ให้ได้จำนวน 7,000 องค์กรต้นแบบทั่วประเทศ
โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะทำงานบูรณาการทำโครงการที่สอดรับกับ แผนส่งเสริมคุณธรรมนำหลักศาสนา เศรษฐกิจพอเพียง ความเป็นไทย มาสร้างสังคมให้เข้มแข็งอย่างมีคุณภาพและคุณธรรมตามนโยบายของรัฐบาล




