เทศบาลนครภูเก็ตจัดโครงการฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ประจำปีงบประมาณ 2561

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2561 ที่ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสนิท ศรีวิหค รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เทศบาลนครภูเก็ต (อปพร.รุ่นที่ 13) ประจำปีงบประมาณ 2561 โดยมีนายกวี ตันสุคตานนท์ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ผู้เกี่ยวข้องและผู้เข้ารับการอบรม เข้าร่วม

นายกวี ตันสุคตานนท์ กล่าวว่า ศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเทศบาลนครภูเก็ต ได้จัดให้มีการฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ประเภทฝึกอบรม จัดตั้งไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 12 รุ่น มีจำนวน อปพร. ทั้งสิ้น 1,334 คน คิดเป็นร้อยละ 1.7 ของจำนวนประชากรในพื้นที่ ซึ่งจะต้องดำเนินการฝึกอบรม อปพร. ให้ได้ร้อยละ 2 ของจำนวนประชากรในพื้นที่ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 1,490 คน การฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นรุ่นที่ 13 ดำเนินการฝึกอบรมระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2561 รวมจำนวน 5 วัน ผู้เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 100 คน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน มีความรู้ความเข้าใจในด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเป็นกำลังเสริมสนับสนุนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนและเพื่อเสริมสร้างให้กลุ่มพลังประชาชนในท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้มีการเสียสละเพื่อช่วยเหลือสังคมส่วนรวมรวมถึงการเพิ่มจำนวน อปพร.ให้ได้ร้อยละ 2 ของจำนวนประชากรในพื้นที่

นายสนิท ศรีวิหค กล่าวว่า จากสถานการณ์ภัยในรอบปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งสาธารณภัยบางประเภทที่ไม่เคยเกิดก็สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด อีกทั้งยังส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและทางราชการ แม้มนุษย์ไม่สามารถห้ามสาธารณภัยต่าง ๆ ไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่สามารถป้องกัน แก้ไข ควบคุม และบรรเทาภัยให้ลดความรุนแรง รวมทั้งลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น และในการจัดการกับเหตุสาธารณภัย จำเป็นต้องมีการร่วมมือกันจากภาคส่วนและหนึ่งในองค์ที่สำคัญคือ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน หรือ อปพร. ซึ่งเป็นองค์กรที่มาจากภาคประชาชนเป็นสำคัญ เป็นองค์กรอาสาสมัครที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งในขณะนี้จังหวัดภูเก็ตมีจำนวน อปพร. ยังไม่ถึงร้อยละ 2 ของจำนวนประชากรในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องเร่งรัดให้ศูนย์ อปพร.ต่าง ๆ ในพื้นที่ทำการฝึกอบรมเพิ่มเติม อปพร.ให้ได้ตามเป้าหมายของกระทรวงมหาดไทยต่อไป