ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจัดอบรมพัฒนาเครือข่ายมวลชนในการเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์ด้านการทำประมงผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม  2560  ที่โรงแรมป่าตองเฮอริเทจ โฮเต็ล ต. ป่าตอง อ.กะทู้ จ. ภูเก็ต พลตรี จรูญ อินทร์สนอง ผู้อำนวยการส่วนงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมโครงการพัฒนาเครือข่ายมวลชนในการเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบสถานการณ์ด้านการทำประมงผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมี นาวาเอกบวร พรหมแก้วงาม รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตและผู้เข้ารับการฝึกอบรม เข้าร่วม

นาวาเอกบวร พรหมแก้วงาม กล่าวว่า ด้วยนโยบายของรัฐบาลได้รับมอบหมายภารกิจพิเศษให้ กอ.รมน. , ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ,กรมประมงและกรมเจ้าท่า ร่วมบูรณาการในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงด้านการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้นศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน.โดยส่วนงานป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามพันธกรณีระหว่างประเทศและงานพิเศษที่ได้รับมอบหมายจึงได้มีการจัดฝึกอบรมโครงการพัฒนาเครือข่ายในครั้งนี้เพื่อให้เครือข่ายพี่น้องชาวประมงจังหวัดภูเก็ต มีความรู้ความเข้าใจ ตระหนักรู้ถึงผลกระทบจากการทำประมงผิดกฎหมายที่มีต่อท้องถิ่นและในภาพรวมของประเทศ ตลอดจนสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากโครงการไปปรับปรุงและพัฒนาวิธีการทำประมงพื้นบ้านได้อย่างถูกต้องตามข้อกฎหมาย เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายได้อย่างยั่งยืนบรรลุผลสัมฤทธิ์ ตามนโยบายของรัฐบาล

จากผลการหารือร่วมกันระหว่าง พลเอกบุญชู เกิดโชค ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน.และ ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เมื่อ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีความเห็นพ้องต้องกันจะกำหนดให้แนวทางแก้ไขปัญหาด้านการทำประมงของประมงจังหวัดชลบุรีและประมงจังหวัดตราดเป็นต้นแบบให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดอื่น ๆ ซึ่งแต่ละจังหวัดมีปัญหาไม่เหมือนกันนำไปประยุกต์และพิจารณาใช้ประโยชน์ให้เป็นรูปประธรรมต่อไป
ขณะที่พลตรี จรูญ กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้ชาวประมงพื้นบ้านได้รับทราบนโยบายของรัฐบาลและเข้าใจถึงกลไกในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงด้านการทำประมงผิดกฎหมาย รวมทั้งเพื่อให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัด 22 จังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับชายฝั่งทะเลสามารถนำผลการฝึกอบรมไปขยายผลให้เป็นผลสัมฤทธิ์ในอันที่จะส่งเสริมให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวในภาพรวมของประเทศเกิดประสิทธิภาพสูงสุดมีความยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป