โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี

S__3547163

S__3547155

S__3547153

S__3547164

307375

S__3547220

เกษตรกรเกือบ 15,000 ราย ในจังหวัดภูเก็ต ได้รับประโยชน์จากโครงการ 9101 สร้างรายได้ในชุมชนเฉลี่ยคนละ 6,000 บาท/เดือน

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2560 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร  ปลอดทองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต  เป็นประธานแถลงข่าวผลสำเร็จของการดำเนินงาน โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ของจังหวัดภูเก็ต  โดยมี นายปารเมศ ทองปรีชา เกษตรจังหวัดภูเก็ต   หัวหน้าส่วนราชการ  กลุ่มเกษตรกร  และสื่อมวลชน   เข้าร่วม

นายนรภัทร  ปลอดทองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต    กล่าวว่า  โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ของจังหวัด ภูเก็ต ดำเนินโครงการในพื้นที่ ครอบคลุม  3 อำเภอ 16 ตำบล 21 ชุมชน  แบ่งเป็นโครงการด้านการผลิตพืชและพันธุ์พืช  12 โครงการ   ด้านการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ 12 โครงการ , ด้านการจัดการศัตรูพืช 2 โครงการ  ,ด้านฟาร์มชุมชน 2 โครงการ ,ด้านการผลิตอาหาร การแปรรูปผลผลิตและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร 10โครงการ,  ด้านปศุสัตว์ 8 โครงการ,  ด้านประมง 11 โครงการ และด้านการปรับปรุงบำรุงดิน 2 โครงการ  รวมทั้งหมดจำนวน  59 โครงการ  งบประมาณ รวม 19,724,700 บาท ขณะนี้มีการ เบิกจ่าย 19,543,162.63 บาท (ร้อยละ 99.08)คงเหลือ 181,537.37 บาท

ผลการดำเนิน มี จำนวนสมาชิกในชุมชนทั้งหมดในจังหวัด 948 ราย ซึ่งมีเกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว จำนวน 14,998 ราย และสามารถสร้างรายได้ให้กับแรงงานในชุมชนเฉลี่ยคนละ 6,000 บาท/เดือน ด้านความยั่งยืน เกษตรกรร้อยละ 90 มีการดำเนินการต่ออย่างต่อเนื่อง โดยการบริหารจัดการรายได้ที่ได้มาเป็นทุนหมุนเวียน โดยกลุ่มมีเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 50,000 – 150,000 บาท/กลุ่ม

นอกจากนี้ได้มี การจัดตั้งเครือข่ายและการเชื่อมโยง ได้แก่ เครือข่ายตามประเภทโครงการ เครือข่ายกลุ่มเกษตรกรโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อฯ การเชื่อมโยงเพื่อเอื้อประโยชน์ด้านการผลิต การลดต้นทุน และการตลาด      โดยมีให้มี ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรหรือ ศพก. และเครือข่ายเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาภาคการเกษตรของชุมชนให้มีส่วนร่วมแบบประชารัฐอย่างยั่งยืนโดยพัฒนาความร่วมมือกับ บริษัทประชารัฐ รักสามัคคี จังหวัดภูเก็ต ที่จะมาส่งเสริมด้านการตลาด

นอกจากจะทำให้เกิดการพัฒนาที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนแล้วยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลไกการทำงานในพื้นที่  ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้    ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์และนำไปปฏิบัติจริงเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมในการแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมกับสภาพของท้องถิ่นและชุมชนอันจะส่งผลต่อเนื่องให้ภาคการเกษตรมีความเข้มแข็ง

นายนรภัทร  ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต    กล่าวย้ำว่า ขอให้เกษตรกรต่อยอดโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเองและชุมชนอย่างยั่งยืน

Comments are closed.