ขบวนการสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจังหวัดภูเก็ตจัดกิจกรรม 1 หยดโลหิต มวลมิตรสหกรณ์ บริจาคเลือดแกภาคบริการโลหิตกาชาดจังหวัดภูเก็ต
ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติจังหวัดภูเก็ต นางสุดาวรรณ ปลอดทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดกิจกรรม “1 หยดโลหิต มวลมิตรสหกรณ์” โดยขบวนการสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจัดกิจกรรม วัตถุประสงค์เพื่อเป็นกิจกรรมสาธารณประโยชน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 102 ปี สหกรณ์ไทย ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นการกระตุ้นให้บุคลากรในขบวนการสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรร่วมกันบริจาคโลหิตและสร้างจิตสำนึก ให้รู้จักการช่วยเหลือสังคมและเพื่อนมนุษย์ สอดคล้องตามอัตลักษณ์ ของสหกรณ์ โดยมีนายภาวัติ ศุภสุวรรณ ประธานจัดงานวันสหกรณ์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต สมาชิกจากสหกรณ์ต่าง ๆ และประชาชนทั่วไปกว่า 150 คนเข้าร่วม
นายภาวัติ ศุภสุวรรณ กล่าวว่า โลหิตทุกหยดมีคุณค่า มีความหมายสำคัญ ในการช่วยเหลือและหล่อเลี้ยงชีวิต ของมนุษย์ ไม่เพียงเฉพาะภาวะสงคราม ภัยธรรมชาติ หรือเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในบ้านเมืองเท่านั้น ที่จำเป็นต้องใช้โลหิตต่อลมหายใจผู้คนนับพันนับหมื่น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า โลหิตทุกหยดล้วนเป็นที่ต้องการ ไม่สามารถคิดเป็นมูลค่าได้ แต่ใช้สิ่งที่มีในตัวเรา คือ โลหิต ซึ่งตัวเราเท่านั้น ที่สามารถมอบให้ได้ การบริจาคโลหิตจึงเป็นทานอันยิ่งใหญ่ ทั้งผู้รับและผู้ให้จะเกิดคุณอนันต์ ที่สำคัญ มิใช่ใคร ที่จะบริจาคกันง่ายๆ ต้องมีคุณสมบัติ และการเตรียมความพร้อมก่อนบริจาค เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น จึงเชื่อว่าทุกคนมีความตั้งใจอย่างยิ่ง ที่มารวมใจ เพื่อแสดงถึงความช่วยเหลือ เอื้ออาอาทรต่อเพื่อนมนุษย์ และร่วมกันทำบุญในครั้งนี้
นางสุดาวรรณ ปลอดทอง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่ากิจกรรม 1 หยดโลหิต มวลมิตรสหกรณ์” ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่ดีและเป็นประโยชน์อย่างมาก เป็นความตั้งใจ การร่วมแรงร่วมใจและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของขบวนการสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรในจังหวัดภูเก็ต ที่จะร่วมกันทำความดี ทุกชีวิตเกิดมาด้วยโลหิต มีชีวิตอยู่ได้ด้วยโลหิต ทุกวันนี้ยังไม่มีผู้ใดสามารถคิดค้น ประดิษฐ์สิ่งใดมาใช้แทนโลหิตได้อย่างสมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องให้มีการบริจาคโลหิต เพื่อนำไปช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพียงอย่างเดียว เชื่อว่าทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกนี้คงไม่มีผู้ใดปรารถนาที่จะพลัดพรากจากสิ่งที่ตนรักในเวลาที่ยังไม่สมควร ถ้าพ่อ แม่ ลูก หรือญาติมิตรประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยด้วยโรคที่ต้องการใช้โลหิต หากไม่มีผู้บริจาคโลหิตช่วยเหลือ และเขาต้องตายจากไปเพราะขาดโลหิต การบริจาคโลหิต เป็นสิ่งที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเลย เพราะในร่างกายแต่ละคนจะมีประมาณโลหิตเทียบได้ง่าย ๆ คือ 17 – 18 แก้วน้ำ ซึ่งร่างกายใช้เพียง 15 – 16 แก้ว เท่านั้น ส่วนที่เหลือสามารถบริจาคให้ผู้อื่นได้ เมื่อบริจาคโลหิตออกไป ไขกระดูกจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดโลหิตขึ้นมาทดแทนให้มีปริมาณโลหิตในร่างกายเท่าเดิม ถ้าไม่ได้บริจาคโลหิตออกมา ร่างกายจะขจัดเม็ดโลหิตที่สลายตัวโดยระบบทำงานของร่างกายเอง
การบริจาคโลหิต ไม่จำกัดเฉพาะวันสำคัญ เพราะทุกวันยังมีผู้ที่รอความช่วยเหลืออยู่ ปัจจุบันโลหิตมีไม่ค่อยเพียงพอ จึงขอเชิญชวนประชาชนผู้มีจิตกุศลและร่างกายแข็งแรง หาโอกาสพิเศษของตัวเองมาบริจาคโลหิตอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการพักผ่อนอย่างเต็มที่ 6 – 8 ชั่วโมง







