ทางหลวงแนวใหม่ สายบ้านสาคู บ้านเกาะแก้ว

กันยายน 15, 2016 ข่าวทั่วไป 1,269

กรมทางหลวง จัดประชุมสรุปผลการคัดเลือกแนวเส้นทางและรูปแบบการพัฒนา ที่เหมาะสมของโครงการ (การสัมมนา ครั้งที่ 2) งานสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่ สายบ้านสาคู บ้านเกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต โดยช่วงที่ 1 ใช้ ทางเลือก C และใช้ทางเลือก G ในช่วงที่ 3.

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 ที่ห้องประชุมเล็ก ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมสรุปผลการผลการคัดเลือกแนวเส้นทางและรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะ สมของโครงการ (การสัมมนา ครั้งที่ 2) งานสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่ สายบ้านสาคู บ้านเกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายไพศาล สุวรรณรักษ์ วิศวกรเชี่ยวชาญ ผู้แทนกรมทางหลวง เป็นผู้บรรยายสรุปผลโครงการ โดยมีผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย

โครงการทางหลวงแนวใหม่ สายบ้านสาคู – บ้านเกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร กรมทางหลวงจัดทำขึ้น เพื่อแก้ไข และ บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนทางหลวงหมายเลข 402 ทั้งนี้ในการสำรวจและออกแบบรายละเอียดเบื้องต้น คณะผู้ออกแบบได้เสนอแนวทางเลือก ของโครงการพร้อมหลักเกณฑ์การคัดเลือกแนวเส้นทางและรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะ สมของโครงการเพื่อนำไปออกแบบรายละเอียด 4 ด้าน คือ ด้านยุทธศาสตร์และการจราจร ด้านวิศวกรรม ด้านเศรษฐกิจและการลงทุนและด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่งขณะนี้ผลการดำเนินงานมีความก้าวหน้า กรมทางหลวงจึงได้จัดการสัมมนาครั้งที่ 2 ขึ้น เพื่อสรุปผลการคัดเลือกแนวเส้นทางและรูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมของโครงการเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ในพื้นที่โครงการได้รับทราบข้อมูลข่าวสารความหน้าของโครงการเป็นระยะ พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน ได้แสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในพื้นที่ และข้อมูลต่างๆ อันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานสำรวจและออกแบบรายละเอียดของโครงการ โดยการพิจารณาแนวทางเลือกของโครงการ แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 มีจุดเริ่มต้นโครงการบนทางหลวง 4026 จนถึง กม. ที่ 5 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้แนวทางเลือกตามเส้นทาง C / ส่วนในช่วงที่ 2 มีทางเลือกทางเดียว คือ แนวเส้นทาง D ระยะทาง ประมาณ 12 กิโลเมตร และช่วงที่ 3 ต่อจากแนวเส้นทางในช่วงที่ 2 ถึงจุดสิ้นสุดโครงการเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 402 (ทางเลี่ยงเมือง) ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้แนวทางเลือก ตามเส้นทาง G

การประชุมในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุม ส่วนใหญ่เห็นด้วยตามแนวทางเลือกดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้มีส่วนได้เสีย ได้แสดงความห่วงใย ในเรื่องทางเดินรถ และทางจักรยาน การออกแบบ ควบคุมพื้นที่ รวมทั้งภูมิทัศน์ของพื้นที่ด้วย ทั้งนี้กรมทางหลวงจะนำข้อเสนอแนะในครั้งนี้ ไปปรับปรุงให้เหมาะสมต่อไป.