ภูเก็ตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับการศึกษาเพื่อสร้างโรงเรียนคุณภาพให้ชุมชน

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563  นายณัฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.อัมพร พีนะสา เลขาธิการ กพฐ. ว่าที่ร้อยดรีธนุ วงษ์จินดา รองเลขาธิการ กพฐ. และผู้บริหาร กพฐ. ลงพื้นที่ โรงเรียนบ้านไม้ขาว โรงเรียนบ้านท่าฉัตรไชย โรงเรียนหงษ์หยกบำรุง โรงเรียนบ้านคอเอน โรงเรียนบ้านหมากปรก และโรงเรียนบ้านแหลมทราย สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาภูเก็ต เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับการศึกษาเพื่อสร้างโรงเรียนคุณภาพให้ชุมชน

หลังจากนั้นทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางมาที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ เพื่อประชุมร่วมกับทางนาย ณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้บริหารในพื้นที่และเป็นการสร้างความเข้าใจและวางแผนการดำเนินงานร่วมกับทางจังหวัดภูเก็ตและหน่วยงานทางการศึกษารวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาด้านสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก ความพร้อมการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน มีแนวทางการดำเนินงาน 3 แนวทาง ได้แก่ การควบรวมโรงเรียนคุณภาพให้ชุมชน การเพิ่มการลงทุนเพื่อยกระดับโรงเรียนที่สามารถดำรงอยู่อย่างมีคุณภาพ (Stand Alone) ของโรงเรียนขนาดกลางและการพัฒนาโรงเรียนดีสี่มุมเมือง

นายณัฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า คุณภาพการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศ ในการที่จะสร้างโรงเรียนให้มีคุณภาพไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ผมคิดว่าเรามีความจำเป็นทำทุกโรงเรียนที่เรามีให้มีคุณภาพเพื่อจะได้ให้การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนของเราได้ ณ ปัจจุบันต้องยอมรับว่าเรายังไม่สามารถทำความรู้พื้นฐานให้กับเด็กและเยาวชนอย่างมีคุณภาพได้ วิธีการบริหารจัดการโรงเรียนก็เป็นส่วนหนึ่งในการที่เราจะขับเคลื่อนประเทศไปได้โดยเราเอาภูเก็ตเป็นตัวอย่างมีการวางแผนเพราะว่าจำนวนโรงเรียนในจังหวัดภูเก็ตสังกัดกระทรวงศึกษาธิการก็มีจำนวนไม่ได้มาก สามารถเป็นตัวอย่างให้หลายๆจังหวัดได้ ในพื้นที่ก็มีความสะดวกในหลายๆเรื่อง ในเรื่องของการเดินทางก็จะสามารถแก้ปัญหาด้วยแผนที่เราวางเอาไว้ในเรื่องของรถขนส่งในส่วนต่างๆ หวังว่าเราจะเอาภูเก็ตโมเดลไปเป็นตัวอย่างให้ทุกจังหวัดในประเทศไทยยกระดับรายได้ของประเทศผ่านการศึกษา ส่วนในเรื่องหลักสูตรของการเรียนการสอนเป็นเรื่องที่เราต้องปรับอย่างยิ่ง เรื่องของวิชาการส่วนหนึ่งอีกส่วนคือทักษะอาชีพหรือทักษะชีวิต ถ้าเราแยกเป็น 2 ส่วนแล้วเราสามารถจัดการเรียนการสอนให้ตรงกับเป้าหมายนี้ได้ จะทำให้เด็กได้สัมผัสกับการเรียนรู้ทั้ง 2 ด้าน ไม่ใช่ว่าการเรียนรู้ทั้ง 2 ด้านใช้ท่องจำอย่างเดียว นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีตที่เราใช้วิธีการสอนให้เด็กจำแต่ไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็คงต้องเอาหลายๆโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จในวิธีการต่างๆมาผสมผสาน

นายณัฐพล กล่าวต่อไปว่า สุดท้ายคือเอาเด็กจำนวนหนึ่งมารวมกันเอาคุณครูที่มีการสอนครบทุกวิชาครบทุกชั้นมารวมกันเพื่อทำให้มีคุณภาพในเรื่องของการเรียนการสอนก็เป็นเรื่องที่ท้าทายเป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายก็คงมีข้อกังวลในหลายๆเรื่องถึงต้องมาเรียนพบท่านผู้ว่าฯ เพื่อนำเสนอแผนของกระทรวงศึกษาธิการ รับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องในทุก ๆ ด้านและหาทางออกที่เหมาะสม ยังไงวิกฤตโควิดนี้เป็นโอกาสที่ให้เราตั้งหลักในเรื่องของการศึกษาถ้าหากว่าเราสามารถใช้เวลา2-3ปีที่จะถึงนี้ยกระดับหรือปฏิวัติการศึกษาก็น่าจะถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้